สนง.หนังสือเดินทางชั่วคราว อุบลฯ เตือนภัย !! ระวังแก๊งต่างชาติหลอกให้โอนเงิน

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว อุบลราชธานี  ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์  ว่าขณะนี้มีคนไทยถูกแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติมีฐานอยู่ในมาเลเซีย  หลอกลวงให้โอนเงินทางอินเตอร์เน็ตเสียหายหลายล้านบาท  โดยแก๊งเหล่านี้มักอ้างตัวเป็นคนสัญชาติอังกฤษ (ข้อเท็จจริงคือกลุ่มแอฟริกัน)  ทำงานเป็นทีมลักษณะแก๊ง call center    มีการสร้าง website คล้ายบริษัทขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ  เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแก่เหยื่อโดยให้หมายเลขพัสดุสำหรับติดตามของที่ส่ง (tracking)  มักเน้นกลุ่มเป้าหมายเพศหญิง  โดยเฉพาะหญิงไทยแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   ที่มีค่านิยมในการแต่งงานกับชาวต่างชาติ  โดยมีวิธีการหลอกลวงในหลายรูปแบบ  อาทิ

1.  อ้างเป็นชายอังกฤษส่งของมีค่ามาให้ที่ประเทศไทยผ่านมาเลเซียแต่ถูกศุลกากรกักไว้

               โดยติดต่อผ่านทาง Facebook หรือ อีเมล์  อ้างตนเป็นชาวอังกฤษ  หลังจากติดต่อทำความรู้จักกันจน ฝ่ายหญิงเริ่มสนใจก็จะชวนไปเที่ยวมาเลเซีย  หากฝ่ายหญิงปฏิเสธก็อ้างว่าตนจะกลับอังกฤษและจะส่งของมีค่าให้  หลังจากนั้นไม่นานก็จะแจ้งว่าได้ส่งของมีค่า (โน้ตบุ๊ค,เงินสด,เครื่องประดับ,ของที่ระลึก) มาให้  พร้อมแจ้งหมายเลขพัสดุและบริษัทรับส่งที่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีตัวตนจริง  หลังจากนั้นก็จะอ้างว่าพัสดุถูกศุลกากรตรวจยึดไว้            จะต้องชำระค่าธรรมเนียมจึงจะส่งของผ่านได้  และขอให้ฝ่ายหญิงโอนเงินเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ 

2.  ชักชวนทำธุรกิจร่วมกันในมาเลเซีย

               โดยหลอกว่าเป็นนักธุรกิจชาวอังกฤษ  และชักชวนหญิงไทยลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน  โดยสัญญาว่า              จะแต่งงานด้วย  แต่ขอให้โอนเงินเข้าบัญชีหรือขอยืมเงินเพื่อจดทะเบียนบริษัทก่อน 

3.  อ้างว่าได้รับมรดกหรือกำไรจากเงินกองทุน

               โดยอ้างว่าตนได้รับบำนาญหรือผลกำไรจากเงินกองทุนในประเทศอังกฤษจำนวนมาก  ประสงค์จะนำเงินมาลงทุนอยู่ในเมืองไทย  พร้อมขอชื่อฝ่ายหญิงเปิดบัญชีในมาเลเซียและให้โอนเงินไปให้เพื่อเป็นทุนในการเปิดบัญชี โดยจะให้ผลกำไรจากส่วนต่างแก่หญิงไทย

               ในการนี้  สำนักงานหนังสือเดินทางฯ  จึงขอแจ้งเตือนภัยมายังผู้ที่อาจได้รับการติดต่อในลักษณะดังกล่าว หากมีข้อสงสัยว่าตนอาจอยู่ในข่ายถูกหลอกลวง  สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จาก  สถานเอกอัครราชทูต  ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์  (โทร. (60-3) 2148-8222, 2148-8350  โทรสาร. (60-3) 2148-6527, 2148-6615 อีเมล์ : thaikul@mfa.go.th )  หรือ  กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ (โทร. 0-2575-1047-51 โทรสาร. 0-2575-1052  อีเมล์ : consular02@mfa.go.th )

❁ พิธีปล่อยเทียนพุทธชยันตี ร่วมงานวิสาขบูชา ณ ท้องสนามหลวง ❁

คลังยืนยันมีเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนพอ-ไม่ทำให้เกิดราคาสินค้าแพง

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า กรมธนารักษ์มีเหรียญกษาปณ์ทุกชนิดราคาที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และสามารถรองรับได้เพียงพอ ต่อความต้องการ 


วันนี้ (16 พฤษภาคม 2555) ณ กระทรวงการคลัง นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกับดูแลกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้สำรองเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเพียงพอ โดยมีเหรียญแต่ละชนิดราคาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนี้
เหรียญ 10 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 1,580 ล้านเหรียญ ,เหรียญ 5 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 2,400 ล้านเหรียญ ,เหรียญ 2 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 995 ล้านเหรียญ ,เหรียญ 1 บาท มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ ,เหรียญ 50 สต. มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 2,040 ล้านเหรียญ และเหรียญ 25 สต. มีหมุนเวียนอยู่ ประมาณ 3,000 ล้านเหรียญ



นายวิรุฬ กล่าวต่อว่า กรมธนารักษ์ยังจ่ายแลกเหรียญเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เป็นปกติ ซึ่งความต้องการใช้เหรียญแต่ละชนิดราคาเช่น 10 บาท อยู่ที่ 16 ล้านเหรียญต่อเดือน 5 บาท อยู่ที่ 17 ล้านเหรียญต่อเดือน 2 บาท อยู่ที่ 14 ล้านเหรียญต่อเดือน และ 1 บาท อยู่ที่ 70 ล้านเหรียญต่อเดือน 50 สต. อยู่ที่ 10 ล้านเหรียญต่อเดือน และ 25 สต. จ่ายแลกเดือนละ 12 ล้านเหรียญ ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์มีปริมาณ เหรียญกษาปณ์สำรองเพียงพอที่จะจ่ายแลกให้ประชาชนและห้างร้านต่างๆ ได้จนถึงปี 2556 

สำหรับการให้บริการจ่ายแลกเหรียญที่มีการรับโอนภารกิจมาจากกรมบัญชีกลางเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2555 ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ ในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ นครสวรรค์ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสงขลาเพื่อให้บริการจ่ายแลกเหรียญแก่ลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย และได้ร่วมมือกับธนาคารออมสินในการเป็นหน่วยให้บริการด้านเหรียญกษาปณ์ แก่ประชาชนรายย่อยในทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 900 สาขา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นมา นอกเหนือจากนั้น ยังมีการบริหารจัดการด้วยการจับคู่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เช่น ธนาคารต่างๆ ซึ่งทำให้ มีเหรียญออกสู่ระบบหลากหลายช่องทาง อย่างไรก็ดี ขณะนี้กรมธนารักษ์กำลังดำเนินการและปรับปรุง การให้บริการด้านเหรียญโดยจะจัดจ้างให้เอกชนเข้ามาให้บริการรับแลก จ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ เพื่อเพิ่ม ความสะดวกให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น 

อนึ่ง นายวิรุฬ ยืนยันว่า ชนิดของเหรียญกษาปณ์ที่มีอยู่ไม่มีผลต่อราคาเงินเฟ้ออย่างแน่นอน เพราะเหรียญกษาปณ์เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าเท่านั้น

Advice IT Genius.

อั๊ยย๊ะ!! ที่นี่..ที่เดียว.เท่านั้น ในงาน Advice IT Genius.
ศิลปินดารา มา่เพียบ ...อาทิเช่น เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ มาแสดงมินิคอนเสิร์ต รวมทั้ง จะได้พบกับพิธีกรชื่อดัง น้าเน็กด้วย 
พิเศษสุด!! นาทีทอง ประมูล Flash Drive ราคา 1 บาท 
NOTEBOOK ทุกรุ่น ลด 2,000 
..แจกของรางวัล พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ตลอดทั้งงาน 
19 พ.ค. 55 ตั้งแต่เวลา 10.30 น.เป็นต้นไป ณ ลานหน้าตึกสุนีย์ทาวเวอร์

เมื่อประเทศไทยกำลังจะมี 'ม้าเหล็ก' ความเร็วสูงใช้

กระทรวงคมนาคมเตรียมเร่งรัดก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 5 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-เชียงใหม่,กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี,กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย กรุงเทพฯ-หัวหิน-ปาดังเบซาร์ และ กรุงเทพฯ-ระยอง ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปรู้จักกับ เทคโนโลยี รถไฟความเร็วสูงที่โลกนี้มีใช้กัน

หลังจาก พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานสรุป กรอบการพัฒนารถไฟความเร็วสูง ร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำผลศึกษาที่บริษัทที่ปรึกษา จัดทำไว้เข้ามาพิจารณารายละเอียดเพื่อกำหนดกรอบหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือ การพัฒนารถไฟความเร็วสูง โดยใช้รางขนาด 1.435 เมตร หรือสแตนดาร์ดเกจจะมี การปรับปรุงจากรางเดิม ซึ่งเป็นรางขนาด 1 เมตร หรือมิเตอร์เกจ หรือจะมีการพัฒนา รางที่ 3 เป็นแบบสแตนดาร์ดเกจตลอดเส้นทาง ขณะเดียวกันการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงตามแผนที่กระทรวงคมนาคม ให้นโยบายไว้จะมีการเร่งรัดทำทันที 5 เส้นทาง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี กรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคาย กรุงเทพฯ-หัวหิน-ปาดังเบซาร์ และ กรุงเทพฯ-ระยอง ขณะที่เส้นทางแรกที่จะเร่งดำเนินการทันที คือกรุงเทพฯ- นครราชสีมา โดยรูปแบบการลงทุนนั้น เป็นไปได้มากที่สุด คือ ภาครัฐก่อสร้างรางหรือโครงสร้างพื้นฐานเอง และดึงเอกชนเข้ามาร่วมในการเดินรถ ซึ่งจะมีพูดคุยอีกครั้งว่าจะเป็นรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนเดินรถ หรือสัมปทานเดินรถ

ส่วนอัตราค่าโดยสารตามผลศึกษานั้น ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงเช่น กรุงเทพฯ-นครราชสีมา จะเก็บคนละ 1,000 บาท แต่จะกำหนดอัตราดังกล่าวหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล ขณะที่เงินลงทุนระบบรถไฟความเร็วสูงนั้น หากภาครัฐก่อสร้างรางเองก็จะมีค่าใช้จ่ายกิโลเมตรละ 800-1,000 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ได้ร่างกำหนดค่าโดยสาร + เวลาเดินทาง
สำหรับเครือข่ายไฮสปีดเทรน ไว้แล้วและคาดหวังไว้ว่าราคาน่าจะลดลงอีก

สายตะวันออกเฉียงเหนือ:
กรุงเทพ (สถานีกลางบางซื่อ)-นครราชสีมา เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 16 นาทีค่าโดยสาร 410 บาท
กรุงเทพ (สถานีกลางบางซื่อ)-ขอนแก่น เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 13 นาที ค่าโดยสาร 709 บาท
กรุงเทพ (สถานีกลางบางซื่อ)-หนองคาย เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 4 นาทีี ค่าโดยสาร 984 บาท
กรุงเทพ (สถานีกลางบางซื่อ)-สุรินทร์ เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 3 นาทีี ค่าโดยสาร 661 บาท
กรุงเทพ (สถานีกลางบางซื่อ)-อุบลราชธานี เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 51 นาที ค่าโดยสาร 912 บาท

อบต.ชีทวน ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟกือ ประจำปี 2555

กำหนดการบุญบั้งไฟตำบลชีทวน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ในระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2555

วันที่ 9 มิ.ย.55 

เวลา 13.30 น. พิธีเปิดงานบุญบั้งไฟ ชมการแสดงเปิดของผู้ชนะปีที่ผ่านมา

เวลา 14.15 น. เป็นต้นไป ชมขบวนแห่บั้งไฟสวยงามและตกแต่งบั้งไฟสวยงาม ตามจุดให้คะแนน ทั้ง 5 จุด (1. ศาลากลางบ้าน หมู่ที่1 2. หน้าบ้านอดีตกำนันคำใบ 3. ทางเข้าวัดศรีนวลฯ 4. ทางเข้าวัดธาตุสวนตาล 5. หน้าพระธาตุสวนตาล)


เวลา 21.00 น. มหรสพภาคกลางคืน (ยังไม่ทราบวงแน่ชัด แต่เป็นหมอลำซิ่ง)


วันที่ 10 มิ.ย.55
เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ชมการจุดบั้งไฟ แสน ล้าน กือ
เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ชมมหรสพภาคกลางวันจากกลุ่มเยาวชน 


วันที่ 11 มิ.ย.55
เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ชมการจุดบั้งไฟ แสน ล้าน 
เวลา 17.00 น. พิธีปิดและมอบรางวัล


*******************************************
และขอเชิญชวนทุกท่านเที่ยวชุมชนวัฒนธรรม แหล่งโบราณคดีล้ำค่า ประวัติศาสตร์ 3,000 ปี ที่นี้ชีทวน

ม.อุบลฯรับสมัครเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายอัตรา

โครงการรักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีความประสงค์รับสมัครบุคคลเข้าทำงาน ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลายอัตรา อัตราเงินเดือนๆละ 8,000 บาท (แปดพันบาทถ้วน) โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1.เป็นชายสัญชาติไทย 2.อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ขึ้นไป 3.มีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 160 เซนติเมตร 4.สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่า ม.3 หรือเทียบเท่า 5.หากผ่านการเป็นทหารจะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ                ผู้สนใจสอบถามรายละเอียด และขอรับใบสมัครได้ที่ โครงการรักษาความปลอดภัย  มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  ชั้น 1 อาคารสำนักงานอธิการบดี  มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  รับสมัครในวันเวลาราชการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป  โทรศัพท์ 045-353065

โรดโชว์“ศศินทร์สู่อาเซียน”หอการค้าอุบลฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดยผศ.ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ ที่ปรึกษาโครงการศศินทร์สู่อาเซียน (ที่ 3 จากซ้าย) และดร.รัตติมา มุกดาอนันต์ ผู้อำนวยการโครงการศศินทร์สู่อาเซียน (ที่ 5 จากซ้าย) ได้ร่วมกับหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมบรรยายพิเศษเรื่อง “การศึกษาสู่อาเซียน” เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านธุรกิจให้มีศักยภาพสำหรับความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย-ลาว-กัมพูชา รวมทั้งรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทั้งนี้นายนิมิต สิทธิไตรย์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี (ที่ 4 จากซ้าย) ให้การต้อนรับ โดยมีนักธุรกิจและนักลงทุนในภูมิภาคให้ความสนใจโครงการดังกล่าวเป็นอย่าง

เชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ผ้าไตรพระราชทานทางอากาศ ณ วัดบ้านหนองไฮ

จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี
และมณฑลทหารบกที่ 22

ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ผ้าไตรพระราชทาน
และชมการแข่งขันพารามอเตอร์
ชิงถ้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

ณ วัดบ้านหนองไฮ ต.หนองขอน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2555

วันที่ 26 พฤษภาคม 2555 ชมการแข่งขันบินถ่ายภาพมุมสูง ผาแต้ม - ผาชัน - สามพันโบก - หาดสลึง - ทุ่งศรีเมือง

06.00-07.00	เริ่มการแข่งขันบินถ่ายภาพมุมสูง จุดที่ 1 ผาแต้ม
07.00-08.00	ออกเดินทางจากผาแต้มไปยังผาชัน ต.สำโรง อ.โพธิ์ไทร (ระยะทาง 52 กม.)
08.00-09.00	เริ่มการแข่งขันบินถ่ายภามุมสูง จุดที่ 2 ผาชัน
09.00-09.15	ออกเดินทางโดยรถยนต์ จากผาชันไปยังสามพันโบก ต.สองคอน อ.โพธิ์ไทร (ระยะทาง 13 กม.)
09.30-11.00	พิธีเปิดการแข่งขัน ณ สามพันโบก โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน
	เริ่มการแข่งขันบินถ่ายภาพมุมสูง จุดที่ 3 สามพันโบก
	เริ่มการแข่งขันบินถ่ายภาพมุมสูง จุดที่ 4 หาดสลึง
11.00-12.00	รับประทานอาหารกลางวัน
12.00-14.30	เดินทางโดยรถยนต์ตามเส้นทาง อ.โพธิ์ไทร - อ.ตระการพืชผล - อ.เมืองอุบล - อ.วารินชำราบ
	ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ (ระยะทาง 10 กม.)
14.30-16.30	เริ่มการแข่งขันบินถ่ายภาพมุมสูง จุดที่ 5 เมืองอุบล (Take off / Landing สนาม มทบ.22)
16.30-17.00	ส่งภาพ (ไฟล์ ผาแต้ม, ผาชัน, สามพันโบก, หาดสลึง และเมืองอุบลราชธานี) ให้กรรมการ
	ณ ศูนย์การเรียนรู้ค่ายสรรพสิทธประสงค์ (ที่จัดเลี้ยง)
19.00	พิธีมอบรางวัลการแข่งขัน / เลี้ยงรื่นเริง ณ ศูนย์การเรียนรู้ค่ายฯ
	พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 27 พฤษภาคม 2555 ทอดผ้าป่าสามัคคี ผ้าไตรพระราชทานฯ

06.00	นักบินอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานฯ พร้อม ณ สนาม TAKE OFF กม.10 (ตามถนนอุบล-อำนาจเจริญ)
06.30-07.30	เริ่มบินอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานไปยังสนามบินข้างวัดบ้านหนองไฮ (ระยะทางอากาศ 7 กม.)
10.00	พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ผ้าไตรพระราชทาน โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน
	เสร็จพิธี
	เชิญร่วมรับประทานอาหาร

เชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีทางอากาศ
โอนเงินเข้าบัญชี ชื่อบัญชี วัดหนองไฮธนาคารทหารไทย สาขาอุบลราชธานี
บัญชีออมทรัพย์เลขที่  305-2-52676-5

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ อ.ถาวร  อยู่เย็น 081-0647564 นพ.เชิญ  พรหมคุปต์  081-9767195 พลตรีนิรุทธ  เกตุสิริ  081-8786552 พันตรีพัทยา  จันทุมา  081-8765321

จ.อุบล เตรียมจัดงาน สัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ ครั้งที่ 4

จังหวัดอุบลราชธานี เตรียมจัดงานโครงการสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ ครั้งที่ 4

               นายวิโรฒ มีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมการจัดงานโครงการสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมชาติ ชั้น 5 โรงแรมสุนีย์แกรนด์โฮเทล

               จังหวัดอุบลราชธานี โดยภาคีเครือข่ายภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ จะจัดงานสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้อุบลราชธานี ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 11-19 สิงหาคม 2555 ซึ่งนายวิโรฒ มีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานที่ประชุม แจ้งว่า การจัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ชาวอุบลราชธานี รักการอ่านและการเรียนรู้ ในขณะที่นางสุนีย์ ตริยางกูรศรี ประธานกรรมการบริษัทในเครือก้าวหน้าไก่สด ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจจำนวนมาก ประกอบด้วย นิทรรศการและกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมการแข่งขันและการประกวดทางวิชาการ การแสดงบนเวที รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายหนังสือ

               ทั้งนี้ จึงอยากให้ชาวอุบลราชธานี ทั้งเด็ก เยาวชนและประชาชน ใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ โดยการเข้ามาร่วมงานเยอะๆ เลือกดูเลือกอ่านหนังสือดีๆ มีคุณค่า เพื่อพัฒนาตนเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 11-19 สิงหาคม 2555 ณ ตึกสุนีย์แกรนด์ทาวเวอร์ จังหวัดอุบลราชธานี

ศูนย์บริการ TOT วารินฯ ย้ายที่ทำการใหม่ ไปอาคารตรงข้าม ธ.กรุงไทย วารินฯ

ศูนย์บริการลูกค้าทีโอที สาขาวารินชำราบ 
ไปที่เลขที่ 54/1 ถ.สถิตย์นิมานกาล ต.วาริน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
(ตรงข้ามธนาคารกรุงไทย สาขาวารินชำราบ)เดิมอยู่ที่ 179 ถ.ปทุมเทพภัคดี (หลังตลาดวารินฯ)

อบรมฝึกอาชีพฟรี ! ให้แก่คนพิการ และผู้ดูแลคนพิการ อาหารเที่ยงฟรี มีค่ารถให้

               ชมรมคนพิการไทยใจอาสา จ.อุบลราชธานี จัดโครงการอบรมฝึกอาชีพฟรีให้แก่คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ เปิดรับสมัครคนพิการ และผู้ดูแลคนพิการจำนวน 20 คน เข้ารับการฝึกอบรมอาชีพการทำอาหาร ทำขนม หลักสูตร 4 วัน อบรมตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 27 พฤษภาคม 2555 เวลา 9.00 น.ถึง 16.00 น. ณ.ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการบ้านทองพูนเผ่าพนัส

               สอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ชมรมคนพิการไทยใจอาสา หมายเลขโทรศัพท์ 0878706474 และที่เว็บไซค์ ชมรมคนพิการไทยใจอาสา

หลักฐานที่ใช้ในการสมัคร

1. สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 แผ่น
2. สำเนาบัตรคนพิการ จำนวน 1 แผ่น

มีอาหารเที่ยงฟรี และมีค่าเดินทาง(ค่ารถ)ให้วันละ 100 บาท 
ดูรายละเอียดตามlink http://thaidisabled.blogspot.com/2012/04/training-for-disabled.html

ตารางการอบรมฝึกอาชีพให้แก่คนพิการและผู้ดูแลคนพิการ

ณ. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการบ้านทองพูนเผ่าพนัส อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

๒๔ ถึง ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕

วันที่	เวลา	หัวข้อการอบรม	วิทยากร
๒๔ พ.ค.	๙.๐๐ น.- ๑๒.๐๐ น.	ข้าวเหนียว หมูปิ้ง ขนมปังอบ หน้าเนย หน้าแยม หน้าพริกเผา	พชร สำแดงเดช
	๑๓.๐๐ น.- ๑๖.๐๐น.	ขนมปังแซนวิช แฮมเบอร์เกอร์ไส้หมูสับ ไส้หมูปิ้ง ไส้ไก่กรอบ
๒๕ พ.ค.	๙.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น.	น้ำพริกปลาร้า
	๑๓.๐๐ น.- ๑๖.๐๐น.	น้ำพริกแมงดา
๒๖ พ.ค.	๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.	ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน	อรชร สายแวว
๒๗ พ.ค.	๙.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น.	ขนมชั้น
	๑๓.๐๐ น.- ๑๖.๐๐น.	ขนมกล้วย

สื่อสร้างสุขจัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ "ชุมชนปลอดเหล้าเราทำได้"

คนเมืองดอกบัวชี้ เหล้า เบียร์ คือแหล่งก่ออาชญากรรม ทำร้ายครอบครัวทำเศรษฐกิจย่ำแย่ ร่วมจับมืองานบุญ งานบวช งานศพ แข่งเรือเล่นน้ำปลอดเหล้าเด็ดขาด                 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี สื่อสร้างสุขอุบลราชธานีโดยโครงการสะพาน จากการสนับสนุนของ USAID จัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์รณรงค์ "ชุมชนปลอดเหล้าเราทำได้" เพื่อขยายเขตปลอดสุราและรณรงค์ลดการดื่มเหล้าในเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 โดยมีพระครูสุภกิจมงคล เจ้าคณะตำบลกาบิน อ.กุดข้าวปุ้น นายศุกวสันต์ วงศ์ธนู ผู้จัดการศูนย์วัตกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน จ.อุบลราชธานี นายสนองจิต จินดาชาติ กำนันตำบลปทุม อ.เมืองอุบลราชธานี นายราชันย์ รักผลดี ตัวแทนผู้จัดแข่งเรือปลอดเหล้าเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร และนางลักษณวรรณ ใยคำ อสม.ชุมชนปลอดเหล้าเทศบาลเมืองวารินชำราบ มีนายสุชัย เจริญมุขยนันท เป็นผู้ดำเนินรายการสนทนา                โดยพระครูสุภกิจมงคลเล่าว่า เมื่อปี 2546 เห็นชาวบ้านที่วัดตั้งอยู่ยากจนลงทุกวัน เพราะเมื่อมีเงินก็ซื้อเหล้ามาดื่มกินกัน จึงเริ่มเดินขอบินฑบาตให้ชาวบ้านเลิกกินเหล้าในงานทุกชนิด ส่วนร้านที่จำหน่ายเหล้าเบียร์ก็ให้เลิกขาย ช่วงแรกยังไม่ได้รับความร่วมมือ แต่ได้พยายามโน้มน้าวจิตใจให้เห็นว่า ครอบครัวใดที่เลิกซื้อเหล้าเบียร์มากิน สภาพเศรษฐกิจครอบครัวดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ครอบครัวมีแต่ความสุข                ถึงปัจจุบันนี้ ในตำบลกาบินมีหมู่บ้านปลอดเหล้าอย่างเด็ดขาดแล้ว 2 หมู่บ้าน โดยทั้งสองหมู่บ้านแม้มีงานบุญ งานบวช งานศพ งานแต่งงานเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่มีการซื้อเหล้ามาเลี้ยงดูกันเด็ดขาด เพราะถือคติเป็นงานดี ไม่ควรทำให้จิตใจต้องตกต่ำไปกับการดื่มเหล้า                ด้านนายศุกวสันต์ วงศ์ธนู  ผู้จัดการศูนย์วัตกรรมเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน จ.อุบลราชธานี กล่าวสมัยเป็นวัยรุ่นลองดื่มเหล้าเช่นกัน เพราะการอยากดื่มเหล้าของเยาวชนมีจุดเริ่มต้นมาจากเห็นตัวอย่างคนในครอบครัว โดยตนเองเห็นบิดาดื่มเหล้ามาก่อน จึงทดลองดื่มดูบ้าง แต่ดื่มไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ จึงเลิกและเข้าร่วมรณรงค์กับเยาวชนอยากสนุกสนานไม่จำเป็นต้องดื่มเหล้าก็ได้                               วันหนึ่งมีโอกาสเป็นวิทยากรรณรงค์ตามชุมชนและหน่วยงานราชการใกล้บ้านร่วมกันเลิกดื่มเหล้า ซึ่งวันนั้นบิดาของตนก็ได้มาฟังการณรงค์ด้วย ต่อมาบิดาเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาด ซึ่งท่านอาจมีเหตุผลในการเลิก แต่ไม่ใช่เพราะตนไปสอนท่านแน่นอน และปัจจุบันมีกลุ่มเยาวชนในเครือข่ายให้บริการเสริฟน้ำ ล้างจานในงานบุญ งานกุศล งานศพฟรี แต่มีเงื่อนไข งานนั้นต้องไม่มีการเลี้ยงเหล้าโดยเด็ดขาด                               ด้านนายราชันย์ รักผลดี ตัวแทนสำนักงานเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ซึ่งจัดแข่งเรือปลอดเหล้าบอกว่า  งานประเพณีแข่งเรืออกพรรษาของเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ห้ามนำเครื่องดื่มแอกอฮอลทุกชนิดมาจำหน่าย พร้อมรณรงค์ให้ผู้มาชนการแข่งเรือสนุกด้วยการไม่ดื่มเหล้า ปรากฏในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทในงานประเพณีแข่งเรือเกิดขึ้นเลย                                เพราะไม่มีเหล้ามายุ่งเกี่ยวในการจัดงานประเพณี ทำให้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมการแข่งเรือ มีความสนุกสนานและมั่นใจความปลอดภัย จึงถือเป็นนโยบายของสำนักงานเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร ไม่รับการสนับสนุนจากบริษัทจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอกอฮอลในการจัดงานทุกชนิดด้วย                สำหรับนายสนองจิต จินดาชาติ กำนันตำบลปทุม อ.เมืองอุบลราชธานี ที่ให้ทุกงานศพขึ้นคำขวัญ "ขออภัย ไม่มีเหล้าเบียร์ เพราะญาติเสีย จึงไม่ได้ฉลอง" จากการรณรงค์ด้วยวิธีนี้ กระแสตอบรับเห็นได้ชัดเจนและรวดเร็ว เพราะเจ้าภาพสามารถประหยัดเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานได้จำนวนมาก จึงไม่มีการนำเหล้าเบียร์มาเลี้ยงในการจัดงานศพ  และปัจจุบันได้ขยายตัวไปถึงการจัดงานรื่นเริงอื่นๆด้วย                                "เหล้าจึงเป็นตัวก่อให้ปัญหาทั้งด้านอาชญากรรม การทะเลาะวิวาท หากทุกสังคมร่วมมือกันควบคุม จะลดความรุนแรงด้านต่างๆลงได้มาก" นายสนองจิตกล่าว                                ขณะเดียวกันเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประกาศพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้ากระจายไปทั้ง 25 อำเภอ หากพบการฝ่าฝืนนำเหล้า เบียร์มาดื่มในพื้นที่ปลอดเหล้าจะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฏหมายทันที

อุบลราชธานี เป็นตัวแทนภาคอีสาน ร่วมงานพุทธชยันตี 2600 ปี ที่ท้องสนามหลวง

 รัฐบาลเตรียมจัดงานพุทธชยันตี 2600 ปี พร้อมกันทั่วประเทศ โดยกรุงเทพมหานคร จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง ซึ่งจะมีการอัญเชิญพรบรมสารีริกธาตุให้สักการะด้วย

               นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าว การจัดงานพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าในส่วนภูมิภาค โดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชาปี 2555 ใช้ชื่องาน ฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แบ่งกิจกรรมออกเป็น 3 ด้าน แบ่งเป็นด้านการปฎิบัติบูชา เช่น การอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร เวียนเทียน ทำบุญ ตักบาตร ปฎิบัติธรรม ด้านวิชาการ อาทิ การจัดนิทรรศการด้านต่างๆ และด้านศิลปวัฒนธรรม การจัดผ้าป่ามหากุศล กิจกรรมต่างๆเหล่านี้จะจัดทั่วทุกภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด โอกาสนี้นายยงยุทธ ได้มอบแนวทางการจัดกิจกรรม "หนึ่งจังหวัดหนึ่งพุทธบูชา หนึ่งอำเภอหนึ่งพุทธบูชา หนึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่นหนึ่งพุทธบูชา" เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในโอกาสสำคัญนี้ด้วย

               สำหรับกิจกรรมในส่วนกลาง นอกจากกิจกรรมลักษณะเดียวกันแล้ว จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ให้ประชาชนสักการะ ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 และให้ทุกจังหวัด จัดตั้งผ้่าป่ามหากุศล รวบรวมเงินบริจาคให้สำนักงานศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคัดเลือกให้จังหวัดเชียงใหม่ อุบลราชธานี ปทุมธานี และนครศรีธรรมราช เป็นตัวแทน 4 ภาค ถ่ายทอดกิจกรรมเวียนเทียนพร้อมกันทั่วประเทศพร้อมกับส่วนกลาง ที่สนามหลวง วันที่ 4 มิถุนายน เวลา 18.00 น. 

ชาวเขมราฐแห่ขอหวยต้นไม้โบราณ

       ชาวบ้านริมแม่น้ำโขงจังหวัดอุบลราชธานีขุดพบต้นไม้แดง ไม้เนื้อแข็งอายุเก่าแก่หลายร้อยปีจมอยู่ใต้แม่น้ำโขง จึงนำขึ้นมาเก็บรักษาไว้ในวัด เชื่อเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่หมู่บ้านมาช้านานกว่า 300 ปี สุดท้ายไม่เสียโอกาสขอเลขเด็ดไปแทงหวยตามเคย      
       วันที่16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะผู้รับเหมาขุดดินก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งทรุด บริเวณท่าน้ำบ้านบุ่งซวย ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ได้ขุดไปพบซากต้นไม้แดงขนาดใหญ่ โดยชาวบ้านร้องขอให้นำต้นไม้ดังกล่าวมาไว้ที่วัดบ้านบุ่งซวย เพราะเชื่อเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ต้องการเก็บไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังดู
      
       นางเบญจา อุดมศิลป์ อายุ 76 ปี ชาวบ้านบ้านบุ่งซวย เล่าว่า ต้นไม้แดงที่พบนี้ ตนเกิดมาก็เห็นอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงแล้ว โดยหน้าแล้งจะโผล่พ้นน้ำ และในฤดูน้ำหลากจะจมหายไปในน้ำ สมัยเด็กพ่อแม่ของตนสั่งห้ามลงไปเล่นน้ำใกล้กับต้นไม้นี้ เพราะเชื่อเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องดูแลคนในหมู่บ้านให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข จึงไม่ต้องการให้ใครไปลบหลู่ แต่ก็มีคนฝ่าฝืนไปปีนป่ายกระโดดน้ำเล่น ทำให้จมน้ำเสียชีวิต หรือเจ็บป่วยในเวลาต่อมา
      
       ตั้งแต่นั้นมาคนในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าไปเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวอีก พร้อมร่วมกันอนุรักษ์ต้นไม้ไว้ กระทั่งกระแสน้ำแม่น้ำโขงไหลเปลี่ยนทิศทาง ทำให้ตลิ่งทรุดไปทับถมต้นไม้จมอยู่ใต้ดินนานหลายสิบปี และเพิ่งขุดพบเมื่อช่างก่อสร้างมาก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพัง จึงควรนำขึ้นมาเก็บรักษาให้ลูกหลานได้บูชากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลของหมู่บ้าน เชื่อว่าต้นไม้ต้นนี้มีอายุกว่า 300 ปี มีมาก่อนการตั้งหมู่บ้านแห่งนี้อีก
      
       สำหรับต้นไม้แดงที่พบเป็นไม้ในกลุ่มไม้เนื้อแข็งหายาก ปัจจุบันพบมากในประเทศลาวตอนใต้ ส่วนต้นไม้ที่พบมีลำต้นขนาด 3 คนโอบ ยาวประมาณ 18 เมตร เนื้อไม้มีความแข็งมากเหมือนหิน ขณะเดียวกัน ชาวบ้านใกล้เคียงเมื่อทราบข่าวการพบต้นไม้โบราณ ต่างพากันมาขอเลขเด็ด โดยมองเห็นเป็นเลขต่างๆ กันไป ดังนี้ 76 37 25 15 19 และ 09

รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการจัดทำต้นเทียนฉลองพุทธยันตี

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2555  เวลาประมาณ 07.45 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุรพล  สายพันธ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมคณะ  ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดทำต้นเทียนพรรษา  ณ อาคารฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุบลราชธานี โดยต้นเทียนพรรษาที่เทศบาลนครอุบลราชธานีดำเนินการในนามของจังหวัดอุบลราชธานี  ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อร่วมขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ  งานฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ณ มลฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยมีนางรจนา  กัลป์ตินันท์  นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี  พร้อมด้วยนายวรสิทธิ์  กัลป์ตินันท์  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี เขต 1 .ให้การต้อนรับ  พร้อมนำคณะเยี่ยมชมการจัดทำต้นเทียนพรรษาและรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบ                สืบเนื่องจากมหาเถรสมาคมได้มีมติเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ให้มีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา ปี 2555 เป็นพิเศษ และมีมติเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2555 ให้จัดงานสัปดาห์ส่งเสริมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก โดยให้ใช้ชื่องานว่า"งานฉลองสัมพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" ระยะเวลาการจัดงานระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม - 4 มิถุนายน 2555 รวม 7 วัน และกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณามอบหมายจังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการจัดรถส่งเสริมพระพุทธศาสนา แสดงเรื่องราวการตรัสรู้ ให้มีความยิ่งใหญ่ สวยงาม และสมพระเกียรติ เพื่อนำไปร่วมขบวนพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 และอยู่ร่วมงานจนถึงวันที่ 4 มิถุนายน 2555 ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าว  จังหวัดอุบลราชธานีเห็นว่า  เทศบาลนครอุบลราชธานีเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี่ศักยภาพและเป็นหน่วยงานหลักทีส่งเสริมประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี  จึงได้ขอความอนุเคราะห์ให้เทศบาลนครอุบลราชธานีเป็นหน่วยงานในการจัดทำรถส่งเสริมพระพุทธศาสนาด้วยเทียนพรรษา  แสดงเรื่องราวการตรัสรู้และนำไปเข้าร่วมขบวนพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตจากพระบรมมหาราชวังไปประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง

2 มิ.ย.55 เชิญชาวอุบลฯ ร่วมตักบาตรพระ 2,600 รูป ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี

กำหนดการตักบาตรพระ 2,600 รูป ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555  ณ ถนนหน้าศาลากลางเก่า จังหวัดอุบลราชธานี                ขอเชิญใส่ชุดขาวหรือเสื้อขาวมาร่วมงาน ตักบาตรอาหารแห้ง พระสงฆ์ 2,600 รูป ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรูของพระพุทธเจ้า วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 เวลา 07.00น. ณ ถนนหน้าศาลากลางเก่า 05.00 น. เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมประจำพื้นที่ / เปิดเพลงสร้างบรรยากาศ 05.30 น. ต้อนรับคณะสงฆ์ /ถวายภัตตาหารเช้า / พิธีกรกล่าวทักทายพร้อมแจ้งกำหนดการ 06.00 น. ผู้ร่วมงาน/สาธุชนเข้าพื้นที่นั่งตักบาตร / จัดระเบียบการนั่งสาธุชน 06.20 น. ประธานสงฆ์/ คณะสงฆ์/ผู้ว่าราชการจังหวัด /ผู้แทนนำกล่าว พร้อม ณ ศูนย์กลางพิธี 06.25 น. สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย(ทำนองสรภัญญะ) 06.30 น. - พิธีกรนำกราบ... และคณะสงฆ์ 2,600 รูป - ประธานในพิธี นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย - พิธีกรนำสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย - น้อมนำพานดอกไม้สักการะถวายประธานสงฆ์     - เชิญผู้แทนนำกล่าวคำถวายเข้านั่งประจำที่ 06.45 น. พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ / อาราธนาศีล/รับศีล นำกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธีกรอาราธนาศีล 5 / พระสงฆ์ให้ศีล 07.00 น. - ประธานคณะกรรมการจัดงาน... กล่าวรายงาน - นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวเปิดงาน 07.09 น. พิธีกล่าวคำถวายสังฆทานแด่คณะสงฆ์  2,600 รูป - กล่าวคำถวายภัตตาหารภาษา  บาลี - กล่าวคำถวายภัตตาหารภาษา  ไทย - กล่าวคำถวายจตุปัยจัยไทยธรรมภาษาบาลี - กล่าวคำถวายจตุปัยจัยไทยธรรมภาษาไทย - ประธานในพิธีและผู้มีเกียรติ 10 ท่าน ชุดที่ 1  ถวายไทยธรรมแด่ประธานสงฆ์และคณะสงฆ์ - ผู้มีเกียรติ 10 ท่าน ชุดที่ 2 ถวายไทยธรรมแด่ประธานสงฆ์และคณะสงฆ์ - ประธานสงฆ์กล่าวสัมโมทนียกถา /ให้พร/รับพร-กรวดน้ำ 07.30 น. คณะสงฆ์แปรแถวรับบาตรจากสาธุชน พิธีกรกล่าวนำคำอธิษฐานจิต /คณะสงฆ์รับบาตร/สาธุชนใส่บาตร 08.09 น. เสร็จพิธี /เปิดเพลงอนุโมทนา / ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน / ขอบคุณประชาชน / เก็บงาน

เชิญชาวอุบลฯ ร่วมพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2555

               ด้วยชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7 ของทุกปีเป็น  วันบวงสรวงศาลหลักเมือง ซึ่งในปีนี้ตรงกับ วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2555  เทศบาลนครอุบลราชธานี ได้จัดพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองขึ้น เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข และความเป็นสิริมงคลแก่ชาวจังหวัดอุบลราชธานี 

               ขอเชิญชวนภาครัฐ- เอกชน  ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานีได้ร่วมพิธีบวงสรวงศาลหลักเมือง ในวันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม 2555 ณ ศาลหลักเมืองงหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป 

นายกรจนา มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบวาตะภัย‏

               นางรจนา กัลป์ตินันท์ นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลนครอุบลฯ มอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบเหตุวาตภัย จากพายุฤดูร้อน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งมีบ้านเรือนในเขตเทศบาลนครอุบลฯไ้ด้รับความเสียหายจำนวน 40 หลังคาเรือน  โดยมีพิธีมอบเงินให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 40 หลังคาเรือน รวมจำนวนเงิน 260,900 บาท เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2555  เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลนครอุบลราชธานี

มาสเตอร์ คาร์ จับมือ ซิกท์ เอจี ลุยรถเช่า

มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จับมือ ซิกท์ เอจี เปิด "ซิกท์ ไทยแลนด์" หวังลุยธุรกิจรถเช่าระยะสั้นในไทย พร้อมกางแผนลุยตลาดอาเซียนรับเออีซี มั่นใจสิ้นปีกอดรายได้ 200 ล้านบาท

นายรูดิเกอร์ โปรสกี้ รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการแฟรนไชส์ ซิกท์ เอจี กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการรถเช่าอันดับ 1 ของประเทศเยอรมนีและทวีปยุโรปที่มีเครือข่ายการให้บริการใน 105 ประเทศทั่วโลกผ่านโครงข่ายการให้บริการกว่า 1,800 สาขา และเพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียนจึงได้จับมือกับพันธมิตรใหม่อย่างบริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิลฯ ที่เป็นผู้ให้บริการรถเช่าแบบครบวงจรในประเทศไทย ที่มีรถในพอร์ตกว่า 4,000 คัน และเปิดให้บริการ 14 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นการผลักดันธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งทั้งในประเทศไทยและในอาเซียน 

ด้านนายถิรพงศ์ คำเรืองฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิล จำกัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี กล่าวว่า ภายหลังจากการประกาศจับมือกับซิกท์ รูปแบบการบริหารงานนั้นบริษัทจะแยกการบริหารงานในส่วนของรถเช่าระยะสั้นน้อยกว่า 1 ปี และบริการรถเช่าลีมูซีน มาบริหารภายใต้ซิกท์ ไทยแลนด์ ทั้งหมด ขณะที่ในส่วนของรถเช่าระยะยาวมากกว่า 1 ปีนั้น จะเป็นการบริหารงานภายใต้บริษัท มาสเตอร์ คาร์ เร้นเทิลฯ 

ส่วนแนวทางตลาดในปีนี้ เตรียมขยายเครือข่ายจากเดิม 14 สาขา ก็จะขยายเพิ่มในพื้นที่ต่างๆ โดยจะเน้นขยายไปยังสาขาในสนามบินนานาชาติทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งสาขาที่จะเปิดในอนาคต ได้แก่ หาดใหญ่, อุบลราชธานี, กระบี่, พระราม 3 และศรีนครินทร์ โดยงบประมาณในการก่อสร้างของแต่ละสาขาจะอยู่ที่ 2 ล้านบาท และสาขาที่มีการปรับรูปแบบเป็นซิกท์ ไทยแลนด์นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนพ.ค. ที่จะถึงนี้

"เรามั่นใจว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและระดับภูมิภาคอาเซียนจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก จากการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ซึ่งอาเซียนถือเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจสูงที่สุดภูมิภาคหนึ่งของโลก และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเราเชื่อว่าหลังจากการจับมือกันในครั้งนี้สัดส่วนของลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 15% เท่านั้น ซึ่งสัดส่วนของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นนั้น จะมาจากทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มที่จะเช่ารถกันมากขึ้น"

นายถิรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจรถเช่าระยะสั้นพบว่ามีเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 มีรายได้ราว 130 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 160 ล้านบาท ในปี 2554 ขณะที่เป้าหมายในปี 2555 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท หรือประมาณ 200 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ทำให้รายได้มีการเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการจับมือเป็นพันธมิตรกับซิกท์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ธุรกิจรถเช่าระยะสั้นเติบโต 20-25% และทำให้รายได้รวมเติบโตไม่น้อยกว่า 20% 

ขณะที่แผนการขยายธุรกิจไปต่างประเทศนั้น จะเริ่มได้ในช่วงไตรมาส 4 โดยบริษัทได้รับสิทธิ์ในการขยายไปอีก 6 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชาและลาว ซึ่งในตอนนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะเริ่มรุกประเทศไหนก่อน แต่ในเบื้องต้นเน้นที่ 3 ประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาประเทศละ 1-2 แห่ง และคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณในการขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่ประเทศที่เหลือจะเปิดให้บริการครบทุกแห่งก่อนปี 2558 ที่จะเปิดเออีซี

นศ.แดนกิมจิยกพลร่วม นศ.ไทยทำงานด้านจิตสาธารณะให้โรงเรียนชนบท

 นักศึกษามหาวิทยาลัยฟาร์อีสต์ มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้เกือบ 200 ชีวิต ลงพื้นที่ร่วมนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี สร้างจิตสาธารณะปรับปรุงโรงเรียนในชนบทรวม 4 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยแดนกิมจิมองงานสาธารณะจะช่วยทำให้นักศึกษาเปลี่ยนพฤติกรรมมีความโอบอ้อมอารี ลดความเห็นแก่ตัว      
       ดร.จำเนียร จวงตระกูล หัวหน้าฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคลล มหาวิทยาลัยฟาร์อีสต์ ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นำนักศึกษาเกาหลีใต้จำนวน 163 คนเข้าร่วมโครงการจิตอาสาบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งโครงการดังกล่าวมหาวิทยาลัยฟาร์อีสต์เริ่มทดลองทำเมื่อ 4 ปีก่อน โดยให้นักศึกษาไปดูแลคนชรา เด็กพิการ และเลี้ยงเด็กกำพร้า หรือร่วมงานด้านศิลปกรรม
      
       ผลปรากฏว่านักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยเข้าใจให้ความดูแลผู้อ่อนแอกว่า ไม่มองเห็นตัวเองเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นเรื่องดีในสังคม มหาวิทยาลัยฟาร์อีสต์จึงขยายโครงการออกไปทำในประเทศต่างๆ เพราะเมื่อนักศึกษาฟาร์อีสต์พบกับเพื่อนนักศึกษาวัยเดียวกัน แต่เป็นคนต่างชาติต่างภาษา
      
       เมื่อได้ทำงานร่วมกันจะเกิดความผูกพัน มีการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมทั้งภาษา ความเป็นอยู่ จนอาจนำไปสู่การประกอบธุรกิจร่วมกันเมื่อทั้งสองฝ่ายจบการศึกษาไปแล้ว
      
       สำหรับปีนี้มหาวิทยาลัยฟาร์อีสต์ได้ขอความร่วมมือมายังมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องต่างๆ ต่อกัน เพื่อเข้าร่วมทำโครงการจิตอาสากับนักศึกษามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
       
       โดยทำรั้วโรงเรียน ทาสีอาคารเรียน ทาสีเครื่องเล่น ปรับปรุงห้องน้ำ ซ่อมแซมสนามกีฬาที่ชำรุด ปรับภูมิทัศน์ภายในโรงเรียนในอำเภอพิบูลมังสาหารรวม 4 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านชาด โรงเรียนบ้านคำผ่าน โรงเรียนบ้านนาแก และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านชาด โดยโรงเรียนทั้ง 4 แห่งเป็นโรงเรียนในชนบทที่ขาดแคลนทรัพยากร จึงเป็นเรื่องดีที่นักศึกษาทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันสร้างประโยชน์ดังกล่าว

แก่งช้างหมอบ อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ