วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เจาะทำเลทองใหม่จัดสรรภูธร


แม้ปัจจุบันบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่จากส่วนกลางตลอดจนค้าปลีกขนาดใหญ่จะตบเท้าขยับไปปักธงตามหัวเมืองใหญ่กันมากพอสมควร แต่แนวโน้มปี 2556 เป็นต้นไป ประเมินว่าจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น โดยนายชาติชาย

พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ฟันธงว่า สมรภูมิการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2556 จะขยายฐานออกไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันโครงการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ เช่นรถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง โครงการทางพิเศษเชื่อมระหว่างเมือง ทางพิเศษเชื่อมเมืองชายแดนโครงการทางพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)สายต่างๆ ส่งผลให้เกิดทำเลใหม่ เมื่อเทียบกับกทม.ที่มีอัตราเติบโตคงที่ อย่างไรก็ดีจากการสำรวจพบว่าการขยายตัวบ้านแนวราบในต่างจังหวัดสูงกว่ากทม.ประมาณสองเท่าตัว ขณะที่แนวสูงโตกว่ากทม.หนึ่งเท่าตัว นอกจากนี้ ยังคงมีเรื่องของธุรกิจเกี่ยวเนื่องเช่นค้าปลีก พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ 

ปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยต่างจังหวัด นอกจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐแล้ว ยังต้องพิจารณาด้านรายได้ต่อหัวของประชากร ที่ผู้ประกอบการต้องเลือกเข้าไปลงทุนเพื่อความได้เปรียบโดยเฉพาะเมืองอุตสาหกรรมและเมืองท่องเที่ยว เช่น ระยอง รายได้ต่อหัวสูงสุดของประเทศ 1.2 ล้านบาทต่อคนต่อปี รองลงมาชลบุรี 5.4 แสนบาทต่อคนต่อปี สมุทรปราการ กว่า 5 แสนบาทต่อคนต่อปี สมุทรสาคร 5.2 แสนบาทต่อคนต่อปี พระนครศรีอยุธยา 4.6 แสนบาทต่อคนต่อปี ภูเก็ต 3.2 แสนบาทต่อคนต่อปี ประจวบคีรีขันธ์ 1.3 แสนบาทต่อคนต่อปี สงขลา 1.3 แสนบาท ต่อคนต่อปี เชียงใหม่รายได้ 92,000 บาทต่อคนต่อปี นครราชสีมา 6.6 หมื่นบาทต่อคนต่อปี นอกจากนี้ยังมี สระบุรี เขาใหญ่ ที่ขณะนี้เป็นทำเลทองฮอตฮิตของอสังหาริมทรัพย์ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบ

ปัจจัยต่อมา คือ เมืองการค้าชายแดน ที่ติดกับไทย พบว่ามีธุรกรรมปีละ 7.5 แสนล้านบาท ส่งออก 4.6 แสนล้านบาทต่อปี ที่เป็นทำเลทองด้านพัฒนาที่ดินเช่น หนองคาย มุกดาหาร อุบลราชธานี ตราด ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ขณะที่จังหวัดที่มีผลพวงเกี่ยวกับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน หรือเออีซี อย่างไรก็ดี ทุกภาคจะมีโครงการของรัฐ เช่น ภาคเหนือ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (ไทย-ลาว) ที่เชียงของเชียงราย ศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่เชียงของ รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ภาคอีสาน รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย รถไฟทางคู่กรุงเทพฯ-ขอนแก่น โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่อุบลราชธานี และนครราชสีมา โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช โครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีเชื่อมทวาย ฯลฯ

สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ ปี 2555 ช่วง 11 เดือน เมื่อเทียบกับปี 2554 อัตราการเติบโตใกล้เคียงกันแต่หากตัวเลขการปล่อยสินเชื่อ ปี 2555 ดูจะสูงกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า อสังหาฯ ในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยของน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ส่งผลให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปล่อยซอฟต์โลน หรือวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 3 แสนล้านบาทให้กับผู้ประสบภัยในช่วงเดือนเมษายน 2555 แยกเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย 50% เอสเอ็มอี 50% โดยกระจายให้กับธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ ในอัตราดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปีโดยกสิกรไทยได้รับจัดสรร 1.4 หมื่นล้านบาท แยกเป็นสินเชื่อบ้านใหม่ 8,000 ล้านบาท และอีกส่วนจะเป็นการรีไฟแนนช์ นอกจากนี้ยังมีวงเงินพิเศษ หรือเอ็กซ์ตรา 5 หมื่นล้านบาทซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการขอสินเชื่อมากขึ้น 

เมื่อย้อนดูตัวเลข 6 เดือนแรกของปี 2555พบว่ามียอดปล่อยสินเชื่อรวมสูงถึง 2.2 แสนล้านบาทในจำนวนนี้เป็นซอฟต์โลนสูงถึง 1แสนกว่าล้านบาทหากเทียบกับปี 2554 ทั้งปีมีเพียง 1.5 แสนล้านบาทส่งผลให้ 6 เดือนแรกของปี 2555 มีอัตราเติบโตทั้งระบบสูงถึง 5.4% หากครึ่งปีหลังโตเท่ากับปีที่ผ่านมาประเมินว่าปีนี้จะมีอัตราเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัย 9.5% ส่วนปี 2554 เติบโต 7% แต่ย้ำว่าภาพรวมทั้งประเทศจะโตใกล้เคียงกับปี2554 ขณะที่การเติบโตของอสังหาฯจะเกาะติดกับจีดีพี ซึ่งปี 2555 จีดีพีโต 5% ปี2556 โตเพียง 4.6% ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ฟันธงว่า ภาคส่งออก ปี2556 น่าจะดีกว่าปี2555 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องจักรตัวใหญ่ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ

นายชาติชายวิเคราะห์ถึงปัจจัยบวก จะเป็นเรื่องของดอกเบี้ยแนวโน้มปี 2556 จะทรงและลง นอกจากนี้ยังมีเรื่องค่าแรง 300บาท มาตรการบ้านหลังแรกส่วนเงินเฟ้อที่แบงก์ชาติกังวลไม่น่าตกใจที่สำคัญผลกระทบน้ำท่วมฟื้นตัวเร็วและผู้บริโภคยังติดถิ่นที่อยู่ ส่วนผู้ที่วางเงินดาวน์แล้วส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางทำให้การทิ้งดาวน์และมองหาทำเลใหม่จึงน้อยมาก
"ทิศทาง แนวโน้มปี 56 จะเท่ากับหรือดีกว่าปี2555 เหตุผลสำคัญคือ ผู้บริโภคไม่เปลี่ยนทำเลเนื่องจากนิสัยคนไทยติดถิ่น ดอกเบี้ยจะทรง-ลง หากชั่งน้ำหนักแล้ว 60% ดอกเบี้ยจะลง ส่วน 40% จะก้ำกึ่ง"

ส่วนแอลทีวีมาตรการป้องปรามฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์กรณีการบังคับให้ผู้บริโภควางเงินดาวน์ 5% หรือแบงก์ปล่อยกู้แนวราบไม่เกิน 95% ที่เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2556ประเมินว่าไม่กระทบกับกำลังซื้อเนื่องจากที่ผ่านมาทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรได้เรียกเก็บเงินดาวน์ 5-10% จากลูกค้าอยู่แล้ว ส่วนปัจจัยลบ จะเป็นเรื่องของต้นทุนค่าก่อสร้าง แรงงานที่จะกระทบเป็นลูกโซ่ ฉุดให้ราคาบ้านสูงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่วิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐฯกับยุโรป ไม่กระทบเหมือนอุตสาหกรรมอื่นเพราะมักเกี่ยวกับปัจจัยภายในประเทศมากกว่าหากการเมืองดี น้ำไม่ท่วมก็ไร้ปัญหา

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เชิญชมการแข่งขันเซปักตะกร้อ เทศบาลเมืองเดชอุดม คัพ ครั้งที่ 14


               เทศบาลเมืองเดชอุดม ขอเชิญชมการแข่งขันเซปักตะกร้อ เทศบาลเมืองเดชอุดม คัพ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2555 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ประเภทคือ ประเภทประชาชนชาย อายุ 35 ปี ขึ้นไป ชนะเลิศได้รับเงินสด 5,000 บาท ประเภทประชาชนชายทั่วไป ชนะเลิศได้รับเงินสด 7,000 บาท และประเภทเยาวชนชาย อายุ ไม่เกิน 16 ปี ชนะเลิศได้รับเงินสด 2,500 บาท
               ผู้สนใจสามารถเข้าชมการแข่งขันเซปักตะกร้อ เทศบาลเมืองเดชอุดม คัพ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2555 ณ ลานกีฬาศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองเดชอุดม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 23 – 29 พฤศจิกายน 2555 

อาชีวอุบลฯ ส่งเรือไฟร่วมฉลองงาน “สว่างไสวมหานทีแห่งเจ้าพระยา”



       วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ปลื้ม ผ่านคัดเลือกแข่งเรือประดับไฟงานประเพณีลอยกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพฯ จัดทำเรือยาว 90 ฟุต ในกรอบแนวคิดต้นเทียนพรรษาอัตลักษณ์ของจังหวัด พญานาคแห่งความสมบูรณ์ กระต่ายปีพระราชสมภพรัชกาลที่ 9 และปลานิลอาหารที่พระองค์ทรงพระราชทานให้ปวงชนชาวไทยได้กินมาถึงทุกวันนี้      
       ดร.ธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวอุบลราชธานี กล่าวถึงการส่งเรือประดับไฟฟ้าเข้าร่วมงานเทศกาลวันลอยกระทง ซึ่งสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดประกวดเรือประดับไฟฟ้าเพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศได้สัมผัสในเทศกาลระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย.ศกนี้ ใต้ชื่อ “สว่างไสวมหานทีแห่งเจ้าพระยา” (The Miracle light of chaopraya) ซึ่งวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการจัดงานให้ส่งเรือประดับไฟฟ้าเข้าร่วมประกวด 1 ใน 9 แห่งของประเทศไทย
      
       สำหรับการดำเนินการจัดเตรียมเรือ คณะครูอาจารย์ และนักศึกษาที่นำโดยนายอุทัย ภูริพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร ได้จัดทำเรือชื่อ “เทียนธรรมเทียนพรรษา ส่องเจ้าพระยามหานที สายธารหลอมชีวี ใต้ร่มพระบารมี ธ ทรงธรรม” ซึ่งมีกรอบความคิดจากประเพณีการทำต้นเทียนวันเข้าพรรษา จนกลายเป็นอัตลักษณ์ของชาวเมืองอุบลราชธานี ตัวเรือจึงประดับด้วยต้นเทียนพรรษา พญานาค และชุมชนคุ้มวัด
      
       รวมถึงกระต่ายที่เป็นปีนักษัตร อันหมายถึงปีพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และปลานิล โดยความหมายของพญานาคคือ สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นดินแดนแห่ง 3 สายนที ได้แก่ แม่น้ำมูล แม่น้ำชี และแม่น้ำโขง
      
       รูปทรงของพญานาคมีปีก 2 ข้างแทนคุณลักษณะพิเศษที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดอุบลราชธานี ต้นเทียนพรรษาประดับดอกบัว ดอกไม้ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งบนฐานพญาหงส์ เพื่อนำเสนอภาพเคลื่อนไหวพระกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รูป “กระต่าย” สัญลักษณ์ของปีเถาะ ทำจากภาชนะดินเผา หมายถึงปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพ
      
       โดยมี 2 มือประคองอยู่ด้านล่าง สื่อความหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน โดยเชื่อมโยงพุทธวจนะจากพระธรรมบทความว่า “ครูเปรียบเสมือนช่างปั้นหม้อ ผู้ประคับประคองภาชนะดินดิบให้เกิดรูปทรง” ซึ่งความหมายถึงพสกนิกรชาวไทยทั้งมวลที่ได้ดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน
      
       สำหรับสัญลักษณ์ “ปลานิล” เป็นพันธุ์ปลาที่ทรงทดลองเลี้ยง และเพาะพันธุ์ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เมื่อประสบความสำเร็จได้พระราชทานให้กรมประมงนำไปขยายพันธุ์ และแจกจ่ายให้แก่พสกนิกรทั่วไปนำไปเลี้ยง เพื่อเพิ่มอาหารให้ราษฎรของพระองค์มีกินมาจนถึงทุกวันนี้
      
       ดร.ธนกร กล่าวอีกว่า การตกแต่งเรือประดับไฟฟ้านี้ ได้ดำเนินการเกือบเสร็จสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว และจะนำเรือเข้าร่วมการซ้อมใหญ่ในวันที่ 23 พ.ย. ที่สะพานพุทธยอดฟ้าไปสิ้นสุดที่สะพานกรุงธน ก่อนเข้าร่วมประกวดในวันที่ 24-28 พ.ย. โดยมีจุดแสดงแสง สี เสียง พลุไฟที่บริเวณสะพานพุทธยอดฟ้า และบริเวณสวนหลวงพระราม 8 สำหรับตัวเรือมีความยาว 90 ฟุต มีความสูงจากผิวน้ำ 4.5 เมตร กว้าง 6 เมตร ประดับด้วยไฟฟ้าทั้งลำเรือ
      
       โดยมีเรือที่เข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น ประกอบด้วย เรือจากจังหวัดชัยนาท เรือจากกองทัพอากาศ เรือจากโรงเรียนมัธยมวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ เรือของกรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ เรือจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เรือจากบริษัทอาร์ต อิท จำกัด เรือของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เรือจากบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด และสุดท้ายเรือจากวิทยาลัยอาชีวอุบลราชธานี
      
       ทั้งนี้ เรือที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดครั้งนี้ จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเงินรางวัล 500,000 บาท รางวัลที่ 2 ได้ถ้วยรางวัลของ นายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัล 200,000 บาท

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม ม.ราชภัฏอุบลฯ ประกาศ พ่อดีเด่นราชภัฏ ปี 2555

  ผศ.ชัยวัฒน์ บุณฑริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำนักศิลปะและวัฒนธรรม  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จัดงาน “วันพ่อแห่งชาติ” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ในวันที่ 4 ธันวาคม 2555 ณ หอประชุมไพรพะยอม ซึ่งในปีนี้มีพ่อดีเด่นราชภัฏ ประจำปี 2555 จำนวน 15 คน ดังรายนามต่อไปนี้
ประเภทพ่อของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
1. นายวิชัย  คูณสว่างพ่อของนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์
2. นายสมจักร  ชมภูพ่อของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและการจัดการ
3. นายทองจันทร์ วงษ์วิลาพ่อของนักศึกษาคณะแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
4. ว่าที่ ร.ท.ธวัชชัย   มาลัยพ่อของนักศึกษาคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
5. นายนิคม บุญหนักพ่อของนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์
6. นายสมเดช  ประสงค์เสียง  พ่อของนักศึกษาคณะครุศาสตร์

ประเภทพ่อที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
1. ผศ.เสนอ  ภิรมจิตรผ่อง   ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา
ประเภทพ่อของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
1. นายสุปัน ปัญญาภาพ่อของ ผศ.รัตนะ ปัญญาภา
2. นายสมหวัง ชาญศิริวัฒน์พ่อของ อ.ฐิติพร ชาญศิริวัฒน์
3. นายสรศักดิ์   สรสุภาพงศ์    พ่อของ ผศ.นรีนุช ยุวดีนิเวศ
4. นายสุระจิตต์  อ่อนฤทธิ์พ่อของ ผศ.สุระเจตน์ อ่อนฤทธิ์
5. นายไมตรี   ศรีษะภูมิพ่อของ อ.มนทยา ศรีษะภูมิ

ประเภทพ่อของพนักงานในมหาวิทยาลัย
1. นายสมบูรณ์   พันธ์งาม   พ่อของ นายศุภศิลป์ พันธ์งาม
ประเภทพ่อที่เป็นบุคคลภายนอก
1. นายหอม  ชินนาค  อายุ 93 ปี
2. นายทา   หมั่นนิยม  อายุ 72 ปี

ประชุมสภา อบจ. ถกปัญหา การก่อสร้างห้างใหญ่ถนนเลี่ยงเมือง และการจำนำข้าว

 บ่ายวันนี้ (20 พฤศจิกายน 55) เวลา 14.00 น.ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี สมัยสามัญ สมัยที่สอง ประจำปี พ.ศ.2555 ครั้งที่สี่
               โดยที่ประชุมนางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ ประธานสภาได้แจ้งให้ที่ปะชุมรับทราบ จากนั้นได้รับรองรายงานประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีสมัยสามัญสมัยที่สอง ประจำปี พ.ศ.2555 ครั้งที่สองและครั้งที่สามทั้งนี้ที่ประชุมได้รับฟังข้อสอบถามของ ส.อบจ.อบ.
               โดยนายปรเมษฐ์ ศรีหล้า ส.อบจ.อบ.เขต 1 อำเภอม่วงฯ ได้สอบถามถึงการก่อสร้างห้างขนาดใหญ่ ที่บริเวณที่ดินรอบๆถนนเลี่ยงเมือง ต.แจระแม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่ลุ่ม และเป็นแหล่งรองรับน้ำช่วยมิให้น้ำท่วมเมืองอุบลฯ แต่ปัจจุบันมีการปล่อยให้นายทุนเข้ามาถมที่บริเวณดังกล่าวสูงกว่าถนนรอบเมืองและถนนเส้นต่างๆ ตลอดจนสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาน้ำท่วมถนน และได้สอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหาโครงการรับจำนำข้าว โดยรัฐบาลได้ทำโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในฤดูการผลิตปี 2555-2556 และมอบหมายให้จังหวัดเป็นผู้ดูแล ซึ่งขณะนี้มีชาวนาเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก และได้ข่าวว่ามีการจับกุมโรงสีข้าวที่เข้าร่วมโครงการบางแห่งทุจริตโครงการดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังมีความวิตกกังวลในเรื่องการดำเนินงานตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกดังกล่าว
               ด้านนายณัฐพงษ์ อึ้งชยากร ส.อบจ.อบ.เขต 1 อำเภอเขื่องใน ได้สอบถามเรื่องการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ด้วยจังหวัดอุบลราชธานีมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าทุกปี พืชผลทางการเกษตร น้ำในไร่นามีน้อยบางแห่งข้าวยืนต้นตายรวงข้าวเหี่ยวเฉาลีบ ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เกิดความเสียหายแก่ชาวไร่ชาวนาเป็นอย่างมาก ประกอบกับปีนี้ฝนทิ้งช่วงยาวนาน จึงทำให้แล้งเร็วกว่าที่คิดและคาดว่าปีนี้อุบลจะแล้งรุนแรงกว่าทุกปี เพราะหลายพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว หากไม่รีบเตรียมการและวางแผนหาทางช่วยเหลือเกษตรกรจะต้องเดือดร้อนอย่างหนักแน่นอน
               สำหรับปัญหาการก่อสร้างห้างขนาดใหญ่ นายวิษณุ สุทธิ ตัวแทนหน่วยงานโยธาธิการและผังเมือง จ.อุบลราชธานี ได้ตอบคำถามว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น คือเทศบาลเมืองแจระแม เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้เข้าไปดูแลเพิ่มเติม
               ส่วนปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการระดับท้องถิ่น ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด เข้าไปตรวจสอบแล้ว ส่วนทางโรงสีได้มีการหักค่าความชื้น เพราะชาวนาใช้รถเกี่ยวข้าวทำให้ข้าวมีความชื้นสูง ด้านสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี อยากให้เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มขึ้น ประชาชนมีความต้องการ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอดอนมดแดง และให้อปท.เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นอนุกรรมการในการตรวจสอบการจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล เพราะในแต่ละพื้นที่มีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีอยู่แล้ว ใกล้ชิดกับประชาชน อันจะทำให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว

จับอดีตรองนางงามต้นเทียนพรรษาอุบลฯ ค้ายาบ้า


ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองอุบลราชธานี บุกค้นบ้านแฟนอดีตรองนางงามต้นเทียนพรรษาปี 2550 เจ้าตัวไม่อยู่ พบยาบ้าซ่อนในยกทรงอดีตรองนางงามต้นเทียน 10 เม็ดและพบซุกซ่อนใต้หิ้งพระและหลังตู้เสื้อผ้าพร้อมเงิน 1.5 หมื่นบาท สารภาพยาบ้าและเงินเป็นของแฟนหนุ่มที่หนีไปได้ก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง       
       วันที่15 พ.ย.55 เมื่อเวลา 07.30 น. พ.ต.ท.วรยุทธ พงษ์ตัน สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติดนำหมายศาลจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจค้นบ้านเลขที่ 184 หมู่ 15 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี หลังมีวัยรุ่นให้การซัดทอดเป็นแหล่งค้ายาบ้า พบ น.ส.จิราภา พันธุ์ลัดดา อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นแฟนของนายธนิต มาธฤทธิ์ ลูกชายเจ้าของบ้านมีอาการพิรุธ และวิ่งหนีเจ้าหน้าที่เข้าไปหลบอยู่ในห้องพระ
      
       เจ้าหน้าที่จึงตามเข้าไปตรวจค้นพบห่อยาบ้าจำนวน 7 เม็ดทิ้งไว้ใต้หิ้งพระและบนหลังตู้เสื้อผ้า เมื่อตรวจค้นบริเวณเสื้อยกทรงของน.ส.จิราภา พบห่อพลาสติกใส่ยาบ้าอีก 10 เม็ด และมีเงินสดอยู่ในกระเป๋าสะพายอีก 15,000 บาท
      
       เมื่อสอบถาม น.ส.จิราภา สารภาพว่า ยาบ้าและเงินทั้งหมดเป็นของนายธนิต มาธฤทธิ์ แฟนหนุ่ม ซึ่งหลบหนีไปได้ก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง จึงแจ้งข้อหา น.ส.จิราภามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจะได้ติดตามตัวนายธนิต แฟนหนุ่มมาสอบสวน มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
      
       สำหรับ น.ส.จิราภา ซึ่งถูกจับฐานค้ายาบ้าครั้งนี้อดีตเคยเป็นรองนางงามเทียนพรรษาในเทศกาลงานแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานีประจำปี พ.ศ.2550 ด้วย

เชิญร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกสมโภช พระแก้วมรกต รูปเหมือนหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น


206369_341687219257580_1106943473_n.jpg


ขอเชิญร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกสมโภช "พระแก้วมรกต"
และรูปเหมือน หลวงปู้เสาร์ กนฺสีโล - หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2555 ณ วัดเลียบ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต วัดกุดชมภู ประธานจุดเทียนชัย อธิฐานจิตปลุกเสก
พระสงฆ์เถราจารย์สวดพุทธาภิเษกตลอดคืน ชีพราหมณ์สวดอิติปิโส 108
พิธีเริ่มเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
ติดต่อ พระครูอุบลคณาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเลียบ โทร.081-7252413
581004_351673718258930_1603848770_n.jpg

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เชิญร่วมงานทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน วัดไชยมงคล ประจำปี 2555

  วัดไชยมงคล ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน กลุ่มมวลชนต่างๆ ดำเนินการจัดโครงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน เฉลิมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี ประจำปี 2555 จังหวัดอุบลราชธานีขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
  • พื่ออนุรักษ์ สืบทอด ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
  • เพื่อทำนุบำรุงและสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่อย่างมั่นคง
  • เพื่อเพิ่มพูนความรัก สมัครสมานสามัคคีในหมู่พุทธศาสนิกชนทุกเชื้อชาติ
  • เพื่อให้เด้กและเยาวชน นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเผยแพร่วัฒนธรรม ประเพณีนี้สืบต่อไป
               งานมหาบุญจุลกฐินเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนหมู่มากรวมกันเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการดำเนินงาน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่การปลูกฝ้ายเพาะเมล็ด หว่าน เติบโต ออกดอกแก่และสุกพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงระหว่างวันออกพรรษาถึงวันลอยกระทง โดยการรวมใจเก็บดอกฝ้ายที่แก่เต็มที่แล้วยังอยู่ในสมอ แล้วนำเอาดอกฝ้ายสีขาวอันบริสุทธิ์มาอิ้วเพื่อเอาเมล็ดออก จากนั้นนำไปดีดในกระเดียดให้เป็นปุย แล้วทำให้เป็นล้อเข็นให้เป็นเส้นด้าย เปียให้ออกมาเป็นไจ กรอออกมาเป็นเข็ด และฆ่าด้วยน้ำข้าว นำไปตากแดดให้แห้ง นำไปใส่อักปั่นเป็นเส้นด้ายเพื่อใส่ในกระสวย แล้วทอมือด้วยฟืมให้เป็นผ้า นำมาตัดเย็บย้อมให้เป็นจีวร เป็นขันธ์ เป็นกระทง จึงนำขึ้นน้อมถวายเป็นผ้าจุลกฐินอันสมบูรณ์ ทุกกระบวนการจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในเวลา 1 วัน เท่านั้น โดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
1. กิจกรรม "จากเมล็ดฝ้ายสู่ไตรจีวร" คือขั้นตอนการผลิตผ้าจากปุยฝ้ายสีขาวสะอาดจนสำเร็จเป็นผืนผ้าสำหรับใช้ทอดกฐิน มีทั้งหมด 9 ฐานการเรียนรู้
ฐานการเรียนรู้ทึ่ 1 ปลูกฝ้ายเป็นสายบุญ เป็นขั้นตอนการปลูก บำรุงรักษาต้นฝ้าย
ฐานการเรียนรู้ที่ 2 เก็บฝ้ายเป็นสายธาร เก็บปุยฝ้ายสีขาวออกจากสมอฝ้ายที่แก่
ฐานการเรียนรู้ที่ 3 อิ้ว ดีด ล้อ เข็นฝ้ายสายธารธรรม เป็นการคัดแยกเมล็ด ทำให้เป็นปุยฟู ม้วนให้เป็นหลอด เข็นให้เป็นเส้นฝ้าย
ฐานการเรียนรู้ที่ 4 เปีย ปั่นฝ้ายสายศรัทธา การทำให้เป็นไจ ปั่นใส่หลอดเตรียมใส่กระสวย
ฐานการเรียนรู้ที่ 5 กวัก ค้น สืบฝ้ายสายใยบุญ การดึงเอาเส้นด้ายจากกงแล้วนำไปขึงกับเครือไปจนถึงกระบวนการร้อยด้ายยืนเข้ารูเขาสอดด้ายยืนกับรูฟืม
ฐานการเรียนรู้ที่ 6 ต่ำหูก ผูกสายธรรม ขั้นตอนการถักทอให้เป็นผืนผ้า
ฐานการเรียนรู้ที่ 7 ตัดเย็บ เก็บสายใย ขั้นตอนการตัดเย็บให้เป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่ง คือ สบง จีวร หรือสังฆาฏิหรือทั้งหมด
ฐานการเรียนรู้ที่ 8 ย้อมด้ายสายพระธรรม ขั้นตอนการนำผ้าสบง จีวร หรือสังฆาฏิ หรือทั้งหมดที่ตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำไปย้อมด้วยสีธรรมชาติ
ฐานการเรียนรู้ที่ 9 มหาบุญจุลกฐิน พิธีทอดกฐิน
2. กิจกรรมถนนสายข้าว (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวหมู่เฮาได้บุญใหญ่) คือกิจกรรมการเรียนรู้การแปรรูปข้าวไปสู่กระบวนการต่างๆ รวมทั้งหมด ๗ ฐานองค์ความรู้
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวต้ม (ฮ่วมกันเฮ้ดข้าวต้มมัด)
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวหลาม (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวหลาม)
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวปุ้น (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวปุ้น (ขนมจีน))
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวจี่ (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวจี่)
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวมธุปายาส (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวมธุปายาส)
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวเม่า (ฮ่วมกันเฮ้ดข้าวเม่า)
  • ฐานการเรียนรู้เรื่องข้าวโป่ง (ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวโป่ง)
3. กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน (เบิ่งการละเล่นพื้นบ้านอีสานบ้านเฮา) คือกิจกรรมสาธิตการละเล่นพื้นบ้านที่เคยมีมาในอดีต อาทิเช่น
๑. เล่นกระต่ายขาเดียว๒. รีรีข้าวสาร๓. ขาโถกเถก
๔. ม้าก้านกล้วย๕. เล่นหมากเก็บ๖. เล่นเดินกะลา
๗. การเล่นโยนเบี้ย๘. ปี่น้อยจากกอข้าว๙. การเล่นบั้งโผ
๑๐. ม้าหลังโปก๑๑. เล่นตี่จับ๑๒. เล่นขี่ม้าฟันดาบ
๑๓. การเล่นแมวกินปลาย่าง๑๔. บักกิ้งล้อ๑๕. การละเล่นงูกินหาง
4. กิจกรรมถนนสายอาชีพ (แนวเฮ็ดอยู่เฮ็ดกิน)
  • การทำธูปหอมด้วยวัสดุธรรมชาติ โดยโรงเรียนบ้านนาเลิง
  • กิจกรรมจากเครือข่ายวิทยาลัยอาชีวศึกษา
5. กิจกรรมผู้เฒ่าพาเว้าเหล่านิทาน คือกิจกรรมฟังผู้เฒ่าผู้แก่เล่านิทานพื้นบ้านนิทานธรรมะ นิทานบักเชียงเหมี่ยง นิทานปรำประรา นิทานคติสอนใจ
6. กิจกรรมการแสดงดนตรีพื้นบ้าน
7. กิจกรรมการแสดงดนตรีไทย
8. กิจกรรมการแสดงหมอลำคู่
9. กิจกรรมการแสดงหนังประโมทัย (หนังบักตื้อ)
10. กิจกรรมการแข่งขันประกวดงานประดิษฐ์ใบตอง ประเภท ขันหมากเบ็ง
11. กิจกรรมการแข่งขัน การขับร้องสรภัญญะ
12. กิจกรรมการละเล่นสาธิต "การรำผีฟ้า" ของชุมชนชาวเขมร
13. กิจกรรมการละเล่นสาธิต "การรำผีไท้ผีแถน" จากชุมชนชาวภูไท
14. กิจกรรมการรับฟังพระธรรมเทศนา 3 ธรรมมาสถ์
15. กิจกรรมการตักบาตรพระกัมมัฏฐาน 109 รูป



กำหนดการจัดงาน ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐิน ประจำปี 2555


วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เวลา 08.39 น.พราหมณ์ทำพิธีอัญเชิญเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเข้าสู่ปริมณฑลพิธีบูชา พรรณา ทำขวัญ อภิเษกต้นฝ้าย ณ ลานปลูกฝ้าย
เวลา 09.09 น.พิธีเปิดงาน "ทอฝ้ายเป็นสายบุญจุลกฐินฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี ประจำปี 2555 จังหวัดอุบลราชธานี"
  • การแสดงรำเอ้ดอกฝ้าย (ณ ลานต้นฝ้าย)
  • ประธาน แขกผู้มีเกียรติ นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ร่วมกันเก็บดอกฝ้าย (นำฝ้ายที่เก็บได้ไปมอบให้ประธานจัดงานที่ฐานการเรียนรู้ที่ 3 เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิตจากเมล็ดฝ้ายสู่ไตรจีวร นำโดยขบวนฟ้อนกลองตุ้ม)
 เวลา 09.39 น.เริ่มกิจกรรมการผลิต "จากเมล็ดฝ้ายสู่ไตรจีวร"
  • ฐานการเรียนรู้จากเมล็ดฝ้ายสู่ไตรจีวร (ทั้ง 9 ฐาน)
  • ฮ่วมกันเฮ็ดข้าวหมู่เฮาได้บุญใหญ่
  • เบิ่งการละเล่นพื้นบ้านอีสานเฮา
  • แนวเฮ็ดอยู่เฮ็ดกิน (ถนนสายอาชีพ)
  • ผู้เฒ่าพาเว้าเหล่านิทาน
  • ชมการแสดงดนตรีพื้นเมืองอีสานจากสถานศึกษาต่างๆ
  • ชมการแสดงดนตรีไทยจากสถานศึกษาต่างๆ
เวลา 16.00-18.30 น.พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา 3 ธรรมาสถ์ เรื่อง "อานิสงส์การสร้างมหาบุญจุลกฐิน"
เวลา 18.00-21.00 น. การแข่งขันประกวดงานประดิษฐ์ใบตอง ประเภท "ขันหมากเบ็ง"
เวลา 19.00-24.00 น. ชมการแสดงหมอลำคู่ การแสดงหนังบักตื้อ การแสดงดนตรีอีสาน
เวลา 21.00-24.00 น. การแข่งขันขับร้องสรภัญญะ
เวลา 00.00-05.00 น. การละเล่นสาธิต "รำผีฟ้า" ของชาวเขมร
การละเล่นสาธิต "รำผีไท้ผีแถน" ของชาวภูไท
เวลา 03.00-05.00 น. เข้าสู่กระบวนการฐานการเรียนรู้ที่ 3 ตัดเย็บ เก็บสายใย ขั้นตอนการตัดเย็บให้เป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่ง คือ สบง จีวร หรือสังฆาฏิ หรือทั้งหมด
เวลา 05.00-07.00 น. เข้าสู่กระบวนการฐานการเรียนรู้ที่ 8 ย้อมด้ายด้วยสายพระธรรม ขั้นตอนการนำ ผ้าสบง จีวร หรือสังฆาฏิ หรือทั้งหมด ที่ตัดเย็บเรียบร้อยแล้วนำไปย้อมด้วยสีธรรมชาติ
วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
เวลา 06.30-07.30 น.  พิธีตักบาตรพระกัมมัฎฐาน จำนวน 109 รูป บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดหลังเดิม
เวลา 07.30-09.00 น.  ถวายภัตตาหารพระกัมมัฎฐาน จำนวน 109 รูป (ฉันในบาตร)
เวลา 08.00-09.00 น.  ขบวนแห่ผ้ามหาบุญจุลกฐิน "สามเส้นทางธรรมสืบสานวัฒนธรรม"
เวลา 09.30-10.30 น.  เข้าสู่กระบวนการฐานการเรียนรู้ที่ 9 พิธีทอดมหาบุญจุลกฐิน
มอบของที่ระลึกแก่ประธานในพิธีและแขกผู้มีเกียรติ
เวลา 11.00 น.  ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกาุ - สามเณร
ประธานและแขกผู้มีเกียรติร่วมกันรับประทานอาหาร
เสร็จพิธี

เชิญร่วมเติมฝันปันรัก ร.ร.บ้านหนองยู อ.บุณฑริก จ.อุบลฯ


               ผศ.ชัยวัฒน์ บุณฑริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า โครงการเติมฝันปันรัก ที่งานประชาสัมพันธ์ ได้จัดขึ้นทุกปี ได้มีภาคีเครือข่ายต่างๆ มาร่วมให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนงที่ได้ให้การอนุเคราะห์ประชาสัมพันธ์ข่าว และในปีนี้ งานประชาสัมพันธ์ ได้ร่วมกับ งานบริการและสร้างเสริมสุขภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, เว็บไซด์ไกด์อุบลดอทคอม และคลังน้ำมัน ปตท. อุบลราชธานี พร้อมด้วย มูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองร้อยชุดควบคุมที่ ๑๕ จะจัดโครงการเติมฝันปันรัก ครั้งที่ 5 ณ โรงเรียนบ้านหนองยู อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 20 ธันวาคม 2555 เพื่อร่วมกันพัฒนาสถานศึกษาใน จ.อุบลราชธานี ให้มีสถานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน
          สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจาก อ.เมือง จ.อุบลฯ ประมาณ 125 กิโลเมตร เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนทั้งสิ้น 40 คน (อนุบาล 6 คน, ป.1 11 คน, ป.2 6 คน, ป.3 7 คน, ป.4 6 คน, ป.5 3 คน และ  ป.6 1 คน) โดยมีครู 2 คน และครูจ้างมาช่วยสอน 1 คน ซึ่งมาจาก จ.สกลนคร และ จ.พิษณุโลก โรงเรียนมีบุคลากรไม่เพียงพอในการดูแลนักเรียนทั้งหมด นอกจากนี้มีเพียงอาคารเรียน 1 หลัง ที่จัดบริการการศึกษาให้เด็กนักเรียน แบ่งเป็น 4 ห้องเล็กๆ ในช่วงฤดูร้อนอากาศร้อนจัด ส่วนฤดูหนาวอากาศหนาวจัด พื้นที่จะมีความแห้งแล้งมาก และในฤดูฝนจะเกิดน้ำท่วมขังบริเวณโดยรอบ ซึ่งการสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก นับว่าเป็นการขาดแคลนที่สำคัญอย่างมาก ทั้งอาคารเรียน สนามกีฬาและนันทนาการ หนังสืออ่านนอกเวลาเรียนในห้องสมุดที่แบ่งจากห้องเรียน เครื่องคอมพิวเตอร์ ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เสื้อกันหนาว และยารักษาโรคต่างๆ เป็นต้น
         ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่มีจิตกุศลร่วมบริจาคทุนทรัพย์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โทรศัพท์ 045-352000 ต่อ 1005-1008 ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2555 

จังหวัดอุบลฯ จัดงานวันสถาปนาอุทยานบึงบัวเฉลิมพระเกียรติ 16 พ.ย.55


 นายเกรียงเดช วัฒนวงษ์สิงห์ นายอำเภอเมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า อำเภอเมืองอุบลราชธานี ร่วมกับทุกภาคส่วนที่มีจิตอาสาร่วมพัฒนาเมืองอุบลราชธานี ตามนโยบาย 4 นคร คือ นครแห่งธรรม นครแห่งเทียน นครแห่งความฮักแพง และนครแห่งการพัฒนา ได้ร่วมกันก่อสร้างอุทยานบึงบัวเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ โดยกำหนดจัดงานวันสถาปนาอุทยานบึงบัวเฉลิมพระเกียรติ สะออนกุ้มข้าวใหญ่ไทเมืองอุบลราชธานี พิธีปลุกเสกเหรียญพระเจ้าใหญ่พรหมนิมิต รุ่นที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ณ บริเวณศาลาชมวิวบึงหนองขอน ทางเข้าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีจังหวัดอุบลราชธานี ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งแต่เวลา 09.00น.เป็นต้นไป
               กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีถวายราชสดุดี พิธีบวงสรวง ตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี รวบรวมปัจจัยและข้าวเปลือก นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การแสดงจากศิลปินแห่งชาติ ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม การบรรยายธรรมทำนองแหล่อีสานกัณฑ์พิเศษ บวชชีพราหมณ์ พิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระเจ้าใหญ่พรหมนิมิต รุ่นที่ 1 อธิษฐานจิตปลุกเสกโดยพระครูพิบูลนวกิจ หรือหลวงปู่คำบุ คุตตะจิตโต และพระเกจิอาจารย์มากมาย
               จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและประชาชนที่สนใจ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญทานบารมีด้วยการบริจาคปัจจัย ข้าวเปลือกร่วมสร้างกุ้มข้าวใหญ่ จัดตั้งโรงทาน ตามกำลังศรัทธา

ม.ราชภัฏอุบลฯ รับสมัครนักศึกษา ป.บัณฑิตวิชาชีพครู

ผศ.ชัยวัฒน์ บุณฑริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า  คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดรับสมัครนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในสังกัดต่างๆ ที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๕
               คุณสมบัติ เป็นครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัดต่างๆ ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและมีรายชื่ออยู่ในการสำรวจของต้นสังกัด
               ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่สาขาวิชาชีพครู ห้อง ๓๒.๕๐๑ คณะครุศาสตร์ โทรศัพท์ ๐-๔๕๓๕-๒๐๐๐ ต่อ ๑๒๐๕ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน

ม.ราชภัฏอุบลฯ รับสมัครเรียนพิเศษภาษาเกาหลี รุ่นที่ 6

    ผศ.ชัยวัฒน์ บุณฑริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เปิดรับสมัครเรียนพิเศษภาษาเกาหลี  รุ่นที่ ๖ สอนโดยอาจารย์ชาวเกาหลีที่พูดภาษาไทยได้ สำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป ๒ ระดับ
               ๑. ภาษาเกาหลีระดับพื้นฐาน  จำนวน ๔๐ คน (เรียนวันอังคาร ๑๐.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องบุณฑริกา ๒)
               ๒. ภาษาเกาหลีระดับกลาง  จำนวน ๔๐ คน (เรียนวันพุธ ๑๐.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องบุณฑริกา ๒) สำหรับผู้ที่เคยผ่านการเรียนระดับพื้นฐานมาแล้ว
               สอบถามรายละเอียด ขอใบสมัครและยื่นใบสมัครได้ที่ งานประกันคุณภาพการศึกษา อาคารคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ชั้น ๒ โทรศัพท์ ๐-๔๕๓๕-๒๐๐๐ ต่อ ๑๕๓๑  ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยจะเปิดทำการสอน ในวันที่ ๑๐ – ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

เทศบาลตำบลอุบลฉาว ฉกเงินโบนัส พนง.ร้อยละ 5


  พนง.เทศบาลตำบลอุบลกว่า 20 คนรวมตัวเข้าแจ้งความถูกผู้บริหารหักเงินโบนัสไว้ร้อยละ 5 ของอัตราเงินเดือนโดยไม่ชี้แจงนำเงินไปใช้อะไร ด้านปลัดเทศบาลรักษาการแทนนายกเทศมนตรีที่หมดวาระแจงไม่ทราบเรื่อง อ้างจะสอบถามลูกน้องก่อนวางโทรศัพท์หนีไป       
       วันที่13 พ.ย. 2555ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองอุบลราชธานี นายณัฐวัตร บุตรพรหม อายุ 34 ปี พนักงานลูกจ้างประจำกองช่าง สำนักงานเทศบาลตำบลอุบล พร้อมเพื่อนพนักงานในแผนกอื่นกว่า 20 คน เข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ก้องชนะ บุตรศิริ พนักงานสอบสวน กรณีถูกผู้บริหารสำนักงานเทศบาลตำบลอุบลหักเงินโบนัสคนละ 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินเดือน
      
       นายณัฐวัตรเล่าว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.หัวหน้าแผนกของพนักงานในเทศบาลฯ เรียกให้ไปลงชื่อรับเงินโบนัสคนละ 1 เดือน เพื่อตอบแทนที่ช่วยกันทำงานให้เทศบาลฯ มาครบปี ปรากฏว่าหลังได้รับซองบรรจุเงินนำเปิดออกดูมีการหักเงินของพวกตนไปคิดเป็นร้อยละ 5 ตามอัตราเงินเดือนของแต่ละคน
      
       จึงสอบถามหัวหน้าแผนกที่นำเงินมาให้ ได้รับคำชี้แจงว่าผู้บริหารสั่งให้หักเงินจำนวนดังกล่าวไว้ โดยไม่ให้เหตุผล พวกตนเห็นว่าไม่เป็นธรรมเนื่องจากไม่มีการชี้แจงจะนำเงินที่หักไว้ไปทำประโยชน์อะไรให้พนักงาน จึงปรึกษาและรวมกลุ่มกันเข้ามาแจ้งความเพื่อให้พนักงานสอบสวนเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ เพราะพนักงานของสำนักงานเทศบาลฯ แห่งนี้มีกว่า 160 คน มีเงินถูกหักไว้เกือบ 1 แสนบาท
      
       เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกประจำวันรับแจ้ง พร้อมให้พนักงานนำเอกสารมาให้เพิ่มเติมเพื่อสืบสวนหาคนที่ยักยอกเงินของพนักงานมาดำเนินคดีต่อไป
      
       ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายวีระชัย คำล้าน ปลัดเทศบาลตำบลอุบล รักษาการแทนนายกเทศมนตรีที่หมดวาระไปเมื่อ 1 เดือนก่อน ระบุว่าไม่ทราบเรื่องการหักเงินตามที่พนักงานเข้าแจ้งความ ต้องสอบถามจากลูกน้อง พร้อมกับวางสายโทรศัพท์โดยไม่ให้คำตอบใดๆ


สื่อนอกตีข่าวคู่หูหนุ่มอุบลฯ ถูกยิงปางตายหลังเต้น “กังนัมสไตล์”


   สื่อต่างประเทศรายงาน หนุ่มอีสาน2 คนอาการสาหัส หลังถูกสาดกระสุนใส่เพราะเต้นท่าควบม้าประกอบเพลงฮิต “คังนัม สไตล์” ของศิลปินแดนกิมจิ “Psy” กลางงานวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี ระบุ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วในประเทศไทยที่เกิดเหตุรุนแรงเกี่ยวข้องกับเพลงฮิตดังกล่าว      
        รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า เกิดเหตุชายวัยรุ่นคนหนึ่งชักปืนลูกซองยิงใส่หนุ่มอีสานวัย 24 ปี และ 17 ปีอาการสาหัสเมื่อวันอาทิตย์ (11) และหนึ่งในนั้นถูกยิงเข้าที่ใบหน้า โดยสาเหตุเกิดจากมือปืนขาโจ๋วัย 19 ปีซึ่งหลบหนีไปหลังก่อเหตุ เกิดรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่สองหนุ่มเต้นควบม้าอันเป็นท่าประกอบเพลงฮิต “คังนัม สไตล์” บริเวณหน้าเวทีหมอลำ กลางงานวัดแห่งหนึ่ง
      
        ข้อมูลจากสื่อต่างประเทศระบุว่า มือปืนเกิดความไม่พอใจและรู้สึกขัดหูขัดตาที่ เหยื่อกระสุนทั้ง 2 รายลุกขึ้นเต้นท่าควบม้าที่กำลังฮ็อตฮิตแพร่ระบาดไปทั่วโลก ระหว่างการแสดงหมอลำ แทนที่จะร่ายรำประกอบจังหวะตามสไตล์พื้นบ้าน ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาระงับเหตุและส่งตัวมือปืนกลับบ้าน
      
        ทั้งสองหนุ่มซึ่งเดินทางออกจากงานวัดโดยใช้รถจักรยานยนต์ หลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน ในเวลาประมาณ 02.00 น. โดยระหว่างทางพวกเขาได้พบกับมือปืนที่ดักรออยู่ ก่อนที่มือปืนจะลั่นไกใส่ เป็นเหตุเหยื่อที่มีอายุ 24 ปีถูกยิงเข้าที่เบ้าตาข้างขวา ส่วนอีกรายที่มีอายุ 17 ปีถูกยิงเข้าที่แขนและลำตัว อาการสาหัส
      
        ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานี มิใช่เหตุรุนแรงครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับเพลงฮิต “คังนัม สไตล์” ของ “Psy” หรือ “ปาร์ค เจ ซัง” นักร้องชาวเกาหลีใต้วัย 34 ปี เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา การเต้นประกอบเพลงดังกล่าวเคยนำไปสู่การกราดยิงกลางสถานบันเทิงชื่อดังในย่านเอกมัยของกรุงเทพฯมาแล้วเช่นกัน ส่งผลให้ประเทศไทยต้องถูกจารึกไว้ว่าเป็นดินแดนเพียงแห่งเดียวของโลกที่มีคนถึงขั้นจะเอาชีวิตกันเพราะเพลงยอดนิยมเพลงนี้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา


ฝายขนาดใหญ่จังหวัดอุบลฯ ส่งน้ำช่วยบรรเทาภัยแล้ง


 โครงการฝายขนาดใหญ่และเล็ก ระดมปล่อยน้ำช่วยเหลือพื้นที่ภัยแล้งไม่ให้ผลผลิตเสียหาย ขณะที่ อบจ.ส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติช่วยพื้นภัยแล้งรุนแรงทั้ง 25 อำเภอพ ร้อมเดินหน้าโครงการคลองไส้ไก่สร้างโครงข่ายน้ำแก้ปัญหาถาวร      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้โครงการฝายยางลำน้ำโดมใหญ่ อ.เดชอุดมได้ปล่อยน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ อ.เดชอุดม และ อ.นาเยีย จำนวนกว่า 2 หมื่นไร่ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ส่งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เข้าไปสนับสนุนช่วยสูบน้ำส่งไปในพื้นที่แห้งแล้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยวเสียหาย
      
       นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกล่าวว่า ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดสรรเครื่องสูบน้ำกระจายไปในพื้นที่ภัยแล้ง ตามที่ได้รับการร้องขอทั้ง25 อำเภอ สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาวคือ ได้จัดทำโครงข่ายน้ำและคลองไส้ไก่เพื่อช่วยลดปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นอย่างถาวรด้วย
      
       ขณะที่โครงการโขงชีมูลตอนล่าง สั่งปิดฝายอำนาจเจริญเพื่อเก็บกักน้ำที่เหลือน้อยไว้สนับสนุนการผลิตน้ำประปาและจ่ายน้ำสนับสนุนพื้นที่การเพาะปลูกในพื้นที่ อ.เมือง เขื่องใน มวงสามสิบ และบางส่วนของอำเภอลืออำนาจเจริญพื้นที่ในเขตชลประทานกว่า 80,000 ไร่
      
       นายพงษ์ศักดิ์ คำศรี หน.ฝ่ายจัดสรรและปรับปรุงระบบชลประทานโครงการโขงชีมูลตอนล่าง ระบุว่า ระดับน้ำในเขื่อนมีระดับน้ำลดลงมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จึงต้องสั่งปิดฝายเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะมาถึงไม่ให้น้ำขาดแคลน จนส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปา รวมทั้งการปลูกพืชตามรายทางที่แม่น้ำลำเซบกไหลผ่าน ทั้งจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี

อุบลฯ รับมือภัยแล้ง รวมน้ำ-กระจายน้ำ สร้างตาข่ายน้ำ แก้ไขปัญหายั่งยืน


     นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่การเกษตรหลายแห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวและฝนทิ้งช่วงเร็วกว่าทุกปี เพื่อเป็นการเตรียมการรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่จะมาถึง องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ได้เตรียมดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 รถแบ็คโฮ โดยบูรณการร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัด ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จะเป็นผู้สนับสนุนรถแบ็คโฮและคนขับ ส่วนน้ำมันให้อบต.เทศบาล หรือเกษตรกรที่จะขุดสระเป็นผู้จ่ายเอง นอกจากนี้ได้เตรียมรับมือภัยแล้งเพิ่มอีก 2 วิธี คือ การรวมน้ำ และการกระจายน้ำ โดยการรวมน้ำจะเร่งขุดสระในนาข้าวให้เกษตรกรไว้กักเก็บน้ำในช่วงหน้าแล้ง ส่วนการรวมน้ำพื้นที่ใดมีแหล่งน้ำ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีจะสนับสนุนโครงการชลประทานระบบท่อ อาทิ เครื่องสูบน้ำ และท่อพีวีซี ซึ่งได้สนับสนุนให้แก่กลุ่มเกษตรกร จำนวนประมาณ 800 กลุ่ม ตลอดจนเร่งสร้างตาข่ายน้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน 
               นายพรชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในการใช้น้ำอุปโภค-บริโภคอย่างประหยัด หากพื้นที่ใดเดือดร้อนจะเข้าช่วยเหลือทันที โดยประชาชนหรือหน่วยงานใดที่ต้องการความช่วยเหลือในการขุดสระ และทำชลประทานระบบท่อ สามารถทำหนังสือแจ้งความจำนงค์ ระบุวันที่ที่ต้องการให้ดำเนินการให้ชัดเจน หรือโทรสายด่วนที่ 045-250-333 หรือ 081-955-2345 สายตรงนายกพรชัย ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีจะเข้าช่วยเหลือทันที

จับแล้ว! มือยิงเบ้าตาวัยรุ่นดับ เหตุหมั่นไส้เต้นกังนัมสไตล์กลางงานกฐิน


มือยิงลูกซองถล่มแก๊งวัยรุ่นคู่อริ กระสุนถูกเบ้าตาจนเสียชีวิตในงานฉลององค์กฐินเข้ามอบตัวกับตำรวจ สารภาพหมั่นไส้กลุ่มคนตายเต้นกังนัมสไตล์หน้าเวทีหมอลำซิ่งเย้ย จึงดักรอใช้ปืนลูกซองยิง คาดไม่ถึงจะเสียชีวิต ส่วนมือปืนรายนี้ ยังมีคดีค้างเก่าใช้มีดไล่ฟันฝ่ายตรงข้ามเจ็บสาหัสเมื่อปีก่อนด้วย      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.  12 พ.ย. 55 นายพิเชษฐ์ หรือบอย กุลเกตุ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 บ้านโนนหงษ์ทอง ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ผกก.หลังถูกหมายจับฐานใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนายวรกิจ จันทร์กอง อายุ 24 ปี ที่เบ้าตาขวา ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และนายนิด (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวาและลำตัว เหตุเกิดดึกวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมาในงานฉลององค์กฐินวัดบ้านโนนหงษ์ทอง
      
       ทั้งนี้ นายพิเชษฐ์ สารภาพว่า หลังมีเรื่องทะเลาะกับกลุ่มคนตายที่เป็นวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน ที่เต้นจังหวะกังนัมสไตล์หน้าเวทีหมอลำซิ่งในงานกฐินใส่กัน จึงชวนนายศิริศักดิ์ หรือบึม ทองโชติ อายุ 20 ปี เพื่อนร่วมแก๊งขี่รถจักรยานยนต์ดักรอกลุ่มคนตายที่ข้างกำแพงวัด
      
       เมื่อพบกลุ่มคนตายขี่รถซ้อนท้ายกันมา จึงล้วงเอาปืนลูกซองยาวดัดแปลงที่ซื้อมาในราคา 4,000 บาท ยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จากนั้นหลบหนีไปซ่อนอยู่บ้านคนรู้จักที่หมู่บ้านปลาดุก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 กิโลเมตร
      
       ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกันนายสมัยบิดาได้มาหาและแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทราบตัวคนก่อเหตุและเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว ส่วนนายศิริศักดิ์เพื่อนร่วมแก๊งยังหลบอยู่ที่หมู่บ้านปลาดุก ชุดสืบสวนได้ไปติดตามจับกุมมาพร้อมอาวุธปืนของกลางและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุพร้อมตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าและฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
      
       สำหรับนายพิเชษฐ์ เมื่อปีที่ผ่านมาก่อเหตุใช้มีดยาวไล่ฟันคู่อริได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล แต่ได้ก่อเหตุซ้ำขึ้นอีกในครั้งนี้


วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หมั่นไส้อริต่างหมู่บ้านเต้นกังนัมฯ ชักลูกซองจ่อยิงเบ้าตาโคม่า 2


       วัยรุ่นเมืองอุบลฯ ซ่า เห็นโจ๋ต่างหมู่บ้านเต้นกังนัมสไตล์หน้าเวทีหมอลำ เกิดหมั่นไส้ใช้ปืนลูกซองจ่อยิงวัยรุ่นฝ่ายตรงข้ามเข้าเบ้าตาอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ตามไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีแล้ว      
       เมื่อ 02.30 น. วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.อ.อลงกต งามกิ่ง ร้อยเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันหน้าวัดบ้านโนนหงษ์ทอง ต.ไร่น้อย มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายวันรุ่น 2 คน จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือด
     
       ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ ทราบชื่อว่า นายวรกิจจันทร์กอง อายุ 24 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองที่เบ้าตาขวาอาการสาหัส และนายนิด อายุ 17 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาดเดียวกันที่แขนขวาและลำตัว แพทย์นำตัวเข้าห้องผ่าตัด ทำการช่วยเหลือชีวิต
     
       จากการสอบสวนนายนิดที่ยังให้ปากคำได้ระบุว่า ทั้งคู่มาเที่ยวงานฉลององค์กฐินวัดบ้านโนนหงษ์ทอง ต.ไร่น้อย ที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน ระหว่างนั้นได้พากันเต้นจังหวะกำนันสไตล์หน้าเวทีหมอลำซิ่ง ทำให้นายพิเชษฐ์ หรือบอย กุลเกตุ อายุ 19 ปี วัยรุ่นจากหมู่บ้านปลาดุกไม่พอใจเข้ามาหาเรื่อง แต่เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเข้ามาห้าม และไล่ให้นายพิเชษฐ์กลับบ้านไป
     
       ต่อจากนั้น พวกตนทั้ง 2 ได้ชวนกันกลับเพราะดึกมากแล้ว ระหว่างขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหน้าวัด นายพิเชษฐ์ได้ดักรอ พร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่ ทำให้นายวรกิจถูกกระสุนเข้าที่เบ้าตา ส่วนตนโดยแขนและลำตัวได้รับบาดเจ็บ
     
       ต่อมา พ.ต.ท.ฐิติภัทร อุณเวชวาณิช รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 12 ต.ไร่น้อย ซึ่งเป็นบ้านพักนายพิเชษฐ์ พบเพียงนายสมัยบิดาแจ้งว่าบุตรชายยังไม่เข้าบ้าน เมื่อตรวจค้นไม่พบความผิดปกติ คาดว่านายพิเชษฐ์ไปหลบซ่อนอยู่ตามบ้านเพื่อน ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

2 หนุ่มเมืองอุบลฯ กดเงินเอทีเอ็มไม่ได้ดังใจทุบตู้พัง

 2 หนุ่มกดถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มแล้วไม่ได้ดังใจ โมโหใช้ไขควงทุบหน้าจอและแป้นพิมพ์พังเสียหาย แล้วบึ่งมอเตอร์ไซค์หนี เจ้าหน้าที่เก็บบัตรที่ค้างในเครื่องส่งตรวจสอบหาเจ้าของก่อนเรียกรับทราบข้อกล่าวหา       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (9 พ.ย.) ร.ต.อ.รุ่งทวี นาปาน ร้อยเวรสภ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยตรวจพบตู้ให้บริการเอทีเอ็มในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาบ้านด้ามพร้า ต.ขามใหญ่ ถูกทุบได้รับความเสียหาย เมื่อไปตรวจสอบหน้าจอตู้เอทีเอ็มถูกทุบจนกระจกแตก ส่วนแป้นพิมพ์มีรอยถูกงัด
       
       แต่จากการตรวจสอบภายในตู้นิรภัยเก็บเงินด้านหลังไม่พบร่องรอยถูกทำลาย และพบบัตรเอทีเอ็มธนาคารเดียวกันถูกยึดไว้ 1 ใบ ซึ่งคาดเป็นของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงยึดไปตรวจสอบหาตัวเจ้าของ
       
       และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในตู้เอทีเอ็ม เมื่อเวลา 05.20 น.วันเดียวกัน มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินขาวทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาลดำ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอด และกดถอนเงินจากตู้ดังกล่าว แต่ไม่ผ่านและถูกยึดบัตร จึงเดินไปเอาไขควงจากรถมาทุบหน้าจอและแป้นพิมพ์จนเสียหายแล้วขับรถกลับไป
       
       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าชายดังกล่าวใส่รหัสผิดเกินจำนวนครั้งที่กำหนด เครื่องจึงยึดบัตรไว้ทำให้โมโหทุบทำลายเครื่อง
       
       ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้นำบัตรเอทีเอ็มที่ยึดได้ตรวจสอบกับสำนักงานใหญ่ ก่อนเชิญเจ้าของบัตรมารับทราบข้อหาฐานทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นต่อไป

อุบลฯ ทำเรื่องแจ้งสถานทูตไทยช่วย 6 คนไทยถูกลาวจับ


หลังเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นไม่สามารถเจรจาให้แขวงจำปาสัก ซึ่งจับตัว 6 คนไทยไปคุมขังปล่อยตัว เพราะลาวต้องการเจรจาให้ไทยปล่อย 11 คนลาวที่ถูกควบคุมในเรือนจำข้อหาเข้ามาตัดไม้พะยูงในเขตไทย จึงประสานสถานทูตให้เข้ามาช่วยเหลือ ด้านญาติคนไทยวอนลาวปล่อยตัว โดยญาติยินดีเสียค่าปรับที่ลาวร้องขอมา      
       จากกรณีทหารลาวเมืองมูลป่าโมก แขวงจำปาสัก ประเทศลาว จับ 6 คนไทยซึ่งออกหาของป่าบนเทือกเขาพนมดงรักบริเวณรอยต่อพรมแดนไทย-ลาว อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
      
       ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดอุบลราชธานีระบุว่า เมื่อสัปดาห์ก่อนทางการลาวแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบว่าจะทำการปล่อยตัว 6 คนไทย แต่มีเงื่อนไขต้องการเจรจาให้ฝ่ายไทยช่วยเหลือราษฎรลาวจากเมืองมูลป่าโมก และเมืองขุสุมา แขวงจำปาสัก ซึ่งถูกฝ่ายไทยจับกุมตัวข้อหาข้ามแดนเข้ามาตัดไม้ในเขตไทยระหว่างเดือน ก.ค.-ส.ค. 2555 จำนวน 11 คน
      
       แต่ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทางการลาวแขวงจำปาสักทราบว่า คนลาวทั้งหมดถูกศาลไทยตัดสินลงโทษจำคุก และอยู่ระหว่างการรับโทษที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี ไม่สามารถไปแทรกแซงกระบวนการของศาลได้ ทำให้ฝ่ายลาวยุติเรื่องการส่งตัวคนไทยทั้ง 6 คนไปเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายของลาวคนละ 6,000 บาท และยังควบคุมตัวคนทั้งหมดไว้ที่คุกบังเยาะ เมืองปากเซ
      
       ด้านการช่วยเหลือคนไทยต่อไป ต้องทำเรื่องแจ้งให้สถานทูตไทยที่กรุงเวียงจันทน์ ช่วยประสานรัฐบาลลาว ขอทราบระยะเวลาการปล่อยตัวคนไทยทั้งหมด ซึ่งลาวได้ตั้งข้อหาเดินพลัดหลงเข้าไปในประเทศ และมีอาวุธไว้ในครอบครองแล้ว
      
       นางลวน ชมพูพื้น ญาติของคนไทยที่ถูกจับระบุว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ญาติๆ เดินทางไปเยี่ยมคนทั้ง 6 ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่คุกบังเยาะ โดยมีเวลาพูดคุยกันเพียง 5 นาที ซึ่งทั้งหมดมีร่างกายซูบผอมเพราะกินอาหารไม่ค่อยได้ และมีความเครียดที่ถูกควบคุมตัวไว้ในคุก
      
       จึงขอร้องให้ทางการไทยช่วยประสานช่วยเหลือญาติพี่น้อง โดยญาติยินดีเสียค่าปรับให้ทางการลาวเมื่อปล่อยตัวกลับทันที

สพม.29 ร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ณ ศูนย์ราชการจังหวัดอุบลราชธานี



              สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ( สพม.29)  นำข้าราชการในสังกัดร่วมปลูกต้นไม้เพื่อเฉลิมพระเกียรติ   เนื่องในปีมหามงคล     ณ ศูนย์ราชการจังหวัดอุบลราชธานี  (ศาลากลางหลังใหม่)    ถ.แจ้งสนิท อ.เมือง จ.อุบลราชธานี    โดยมี ดร.อุษณากร อมาตยกุล  ประธานมูลนิธิประชาสงเคราะห์ไทย – กัมพูชา  เป็นประธานในพิธี  มีส่วนราชการและประชาชนร่วมพิธีจำนวนมาก             
             เมื่อวันที่  9 พฤศจิกายน 2555  เวลา 09.00 น.  นายวลงกรณ์    บุญเต็ม รอง ผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29     นำข้าราชการในสังกัดร่วมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ    เนื่องในปีมหามงคล         ณ ศูนย์ราชการจังหวัดอุบลราชธานี  (ศาลากลางหลังใหม่)    ถ.แจ้งสนิท อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  มี ดร.อุษณากร อมาตยกุล  ประธานมูลนิธิประชาสงเคราะห์ไทย –  กัมพูชา  เป็นประธานในพิธี      โดยมีนายวันชัย    สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงาน และรวมพลังประชาชนปลูกต้นไม้ เนื่องในปีมหามงคล  
            จังหวัดอุบลราชธานี ขอขอบคุณส่วนราชการและประชาชนทุกภาคส่วนในการรวมพลังปลูกต้นไม้เนื่อง    ในปีมหามงคล  และยังมีหน่วยงานราชการ  องค์กรปกครองท้องถิ่น   สถานศึกษาต่างๆ  ร่วมจัดกิจกรรมปลุกต้นไม้สนองโครงการพระราชดำริ  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี  โดยเลือกพื้นที่ในชุมชน เช่น สวนป่าชุมชน   สวนป่าโรงเรียน   พื้นที่สาธารณะ และแหล่งเรียนรู้ อื่นๆ  ตามความเหมาะสม 
             หากหน่วยงานใด หรือโรงเรียนมีการดำเนินการและส่งเสริมฟื้นฟู  อนุรักษ์ป่าไม้ในชุมชนหรือขยายพื้นที่ปลูกป่าเพิ่มเติมขอให้แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์การมีส่วนร่วมผ่านสื่อมวลชนได้ตลอดเวลา หรือส่งข้อมูลที่กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สพม.29   โทรสาร 045 -422185

จังหวัดอุบลฯ ประชุมเตรียมป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และภัยหนาว


               นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกอบจ.อุบลฯ ร่วมประชุมการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและภัยหนาวจังหวัดอุบลราชธานี ปี พ.ศ.2555-2556 ครั้งที่ 1/2555 ณ ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี (ชั่วคราว) โดยมีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

               โดยที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งให้ทราบถึงการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดอุบลฯ ว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จังหวัดอุบลฯ ณ สำนักงาน ปภ.จังหวัดอุบลฯ ถ.คลังอาวุธ ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ได้จัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งจังหวัดอุบลฯ ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนปัญหาภัยหนาวได้สำรวจความต้องการเครื่องกันหนาวในพื้นที่จังหวัดอุบลฯ ทั้ง 25 อำเภอ ประชาชนมีความต้องการทั้งสิ้นจำนวน 421,645 ชิ้น และจัดทำแผนป้องกันภัยหนาวังหวัดอุบลฯทั้งนี้ได้มอบหมายภารกิจและพื้นที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือประสบภัยแล้งให้กับหน่วยงานต่างๆรับทราบเพื่อเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างทั่วถึง แต่ยังไม่ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยหนาวและภัยแล้ง ทั้งนี้ได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ สำรวจพื้นที่ภัยแล้ง ให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันเตรียมรับมือกับภัยแล้งที่จะถึงนี้

               ด้าน นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกอบจ.อุบลฯ กล่าวว่า ในการเตรีบมการช่วยเหลือภัยแล้ง อบจ.อุบลฯ ได้ดำเนินโครงการ 1 ตำบล 1 รถแบ็คโฮ โดยบูรณการร่วมกับทุกภาคส่วน อบจ.อุบล จะเป็นผู้สนับสนุนรถแบ็คโฮและคนขับ ส่วนน้ำมันให้อบต.เทศบาล หรือเกษตรกรเป็นผู้จ่ายเอง นอกจากนี้ได้เตรียมรับมือภัยแล้ง 2 วิธี คือ รวมน้ำ และกระจายน้ำ โดยการรวมน้ำจะเร่งขุดสระในนาข้าวให้เกษตรกรไว้กักเก็บน้ำ ส่วนการรวมน้ำพื้นที่ใดมีแหล่งน้ำจะสนับสนุนโครงการชลประทานระบบท่อ ตลอดจนสร้างตาข่ายน้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน

               นายพรชัยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนพื้นที่ที่ได้รับหมายหมายให้ดูแล คือ ในเขตพื้นที่สำหรับพื้นที่หรือหน่วยงานใดต้องการให้อบจ.อุบลฯเข้าดำเนินการขุดสระ ให้นั้นสามารถทำหนังสือแจ้งความจำนงค์ ระบุวันที่ที่จะให้ดำเนินการชัดเจน หรือติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 081-9552345 สายตรงนายกพรชัย จากนั้นจะดำเนินการเข้าช่วยเหลือทันที

สสจ.อุบลฯจัดประกวดและมอบรางวัลผลงานดีเด่นด้านทันตสาธารณสุข


สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี โดย กลุ่มงานทันตสาธารณสุข ได้จัดการประชุมวิชาการและประกวดผลงานเด่นด้านทันตสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดการนำเสนอจำนวน ๓๓  เรื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนางานด้านทันตสาธารณสุขทั้งในด้านบริหาร บริการ และการรักษาพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานโดยได้รับเกียรติจาก  นายแพทย์สุวิทย์  โรจนศักดิ์โสธร  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธานในการมอบโล่และเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับรางวัล ซึ่งมีผลการประกวดดังนี้              
ประเภท Oral Presentation
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลงานเรื่อง การพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานเชิงรุกสร้างนำซ่อมใน รร.ประถมศึกษา อ.เมือง จ.อุบลราชธานีเจ้าของผลงาน ทพญ.อุมาพร รุ่งรัศมีทวีมานะ รพ. ๕๐ พรรษา มหาวชิราลงกรณ
รองชนะเลิศอันดับ ๑ ได้แก่ ผลงานเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างโรคเบาหวานกับการสุญเสียอวัยวะปริทันต์ในผู้ใหญ่ที่อาศัยในเขต อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี เจ้าของผลงาน ทพญ.วัชราภรณ์ เสนสอน  รพ.นาจะหลวย
รองชนะเลิศอันดับ ๒ ได้แก่ ผลงานเรื่อง CQI การพัฒนาระบบบริหารจัดการหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ เจ้าของผลงาน ฝ่ายทันตสาธารณสุขรพร.เดชอุดม
รองชนะเลิศอันดับ ๓ ได้แก่ ผลงานเรื่องแผนที่การเกิดโรคฟันผุ ต.ลาดความ อ.ศรีเมืองใหม่  เจ้าของผลงาน นายณัฐวัฒน์ จิราพลาธิวัฒน์รพ.สต.ลาดควาย อ.ศรีเมืองใหม่
ประเภท Poster Presentation งานวิจัย การศึกษา โครงการและ CQI
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลงานเรื่อง การศึกษาความถูกต้องของผลการตรวจคัดกรองสุขภาพช่องปากโดยครูอนามัย เจ้าของผลงาน ฝ่ายทันตสาธารณสุข รพร.เดชอุดม
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๑ ได้แก่ ผลงานเรื่อง ฟันเทียมดีๆมีถึงบ้าน Denture Delivery เจ้าของผลงาน ฝ่ายทันตสาธารณสุข รพ.เขื่องใน
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๒ ได้แก่ ผลงานเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์จากการทำโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เจ้าของผลงาน ฝ่ายทันตสาธารณสุข รพ.บุณฑริก
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๓ ได้แก่ ผลงานเรื่อง อสม.ช.งานทันตสาธารณสุข  ช่วยหมอฟันลดภาระงานรักษา  เร่งพัฒนางานส่งเสริมป้องกันเจ้าของผลงาน นางสาวอทิตยา  หาระวงค์  รพ.สต.หนองบก อำเภอเหล่าเสือโก้ก
ประเภท Poster Presentation งานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ผลงานเรื่อง นวัตกรรม CBC : Convenience bur condo คอนโดหัวกรอไม่รอนาน เจ้าของผลงาน ฝ่ายทันตสาธารณสุข รพร.เดชอุดม
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๑ ได้แก่ ผลงานเรื่อง นวัตกรรมนิ้วผ้าอ้อมเพื่อน้องฟันดี เจ้าของผลงาน นางสุวรรณา สมบูรณ์ รพ.สต.โพนเมือง เหล่าเสือโก้ก
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๒ ได้แก่ ผลงานเรื่อง พัดมหัศจรรย์ เจ้าของผลงาน นางสาววนาลัย  สำราญเริญและนางสุรณี บุญกาญจน์สสอ.วารินชำราบ
รองวัลชนะเลิศอันดับ ๓ ได้แก่ ผลงานเรื่อง หน้ากากทันตกรรมทำมือ เจ้าของผลงาน นางสาวฐิติพร  ศรีพันธ์ รพ.สต.สองคอน อำเภอโพธิ์ไทร

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วัดหลวง โบราณสถานสำคัญยุคแรกในการก่อตั้งจังหวัดอุบลราชธานี


ubonratchthani52.jpg
  วัดหลวง โบราณสถานสำคัญยุคแรกในการก่อตั้งจังหวัดอุบลราชธานี สิ่งที่ทำให้คนรุ่นหลังรำลึกถึงคุณงามความดี เจ้าคำผง ผู้สร้างเมืองอุบลราชธานีแคนแรก
               ในช่วงวันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน ของทุกปี ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ร่วมกันจัดงานสดุดีวีรกรรมพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือเจ้าคำผง เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของเจ้าคำผง ผู้สร้างเมืองอุบลราชธานี ในปัจจุบันนี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นเด่นชัดถึงความเจริญรุ่งเรืองของจังหวัดอุบลราชธานี ในสมัยที่พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือเจ้าคำผง ปกครองจังหวัดอุบลราชธานี คือ วัดหลวง
               โดยหลังจากที่ เจ้าคำผง สร้างเมืองอุบลราชธานีเรียบร้อยแล้ว ได้ทำการก่อสร้างวัดหลวง ขึ้นเป็นวัดแห่งแรกของเมืองอุบลราชธานี เมื่อ พ.ศ. 2324 เพื่อสืบทอดพุทธศาสนา และให้พระสงฆ์ที่อพยพมาจากเวียงจันทน์ได้มีที่อยู่จำพรรษา โดยมีอุปราช ราชบุตร ราชวงศ์ ได้เห็นร่วมกันว่า สถานที่ก่อตั้งวัดหลวงทุกวันนี้ (ติดกับริมฝั่งแม่น้ำมูล ใกล้ตลาดสดเทศบาล 3 หรือตลาดใหญ่ ภายในเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี) มีชัยภูมิที่ดี เหมาะสมที่จะสร้างวัดได้ จึงพร้อมใจกันสร้างเป็นวัดที่ใหญ่โต ในปี พ.ศ.2324 และสร้างองค์พระประธานชื่อว่า พระเจ้าใหญ่องค์หลวง  เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ เป็นวัดสำหรับถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
               สำหรับการตั้งชื่อวัดหลวง นั้น เนื่องจาก พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือเจ้าคำผง ต้องการให้ตรงกับนามของท่านที่เป็นผู้สร้าง ซึ่งชาวเมืองเรียกว่า เจ้าองค์หลวง หรือ อัญญาหลวง และอีกประการคือ วัดตั้งอยู่ติดกับคุ้มของท่าน ซึ่งเรียกว่า คุ้มเจ้าหลวง
               การจัดงานสดุดีวีรกรรมพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ หรือเจ้าคำผง ปีนี้ กำหนดจัดขึ้น 2 วัน คือ ระหว่างวันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2555
กิจกรรมในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ชมการจัดแสดงนิทรรศการบอกเล่าเก้าสิบเรื่องเมืองอุบลฯ นิทรรศการภาพเก่าเล่าขานตำนานเมืองอุบล นิทรรศการอนุสาวรีย์แห่งความดี และการสาธิตภูมิปัญญาชาวอุบลราชธานี ส่วนช่วงเย็น พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และงานสมโภชน์ ณ ศาลาจัตุรมุข ทุ่งศรีเมือง
กิจกรรมวันที่ 10 พฤศจิกายน 2555 เวลา 06.30 น. ที่บริเวณวัดหลวง ประกอบพิธีไหว้พระเจ้าองค์หลวงและอัฐเชิญดวงวิญญาณเจ้าคำผง จากนั้นเป็นพิธีอัญเชิญเครื่องยศเจ้าเมืองตามแบบโบราณจากวัดหลวง มายังบริเวณทุ่งศรีเมือง เพื่อประกอบพิธีสดุดีวีรกรรมพระปทุมวรราชสุริยวงษ์ หรือเจ้าคำผง ประกอบด้วย พิธีเปลี่ยนผ้าแพรและสักการะ วางขันหมากเบ็ง กล่าวสดุดีวีรกรรมพระปทุมวรราชสุริยวงษ์ หรือเจ้าคำผง และการแสดงศิลปะพื้นบ้านจากประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ
               จึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสดุดีวีรกรรม พระปทุมวรราชสุริยวงษ์ หรือเจ้าคำผง ประจำปี 2555 วันที่ 9 ถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ ทุ่งศรีเมืองอุบลราชธานี


k (1).JPG.jpg

ขนส่งอุบลฯ แถลงข่าวประมูลเลขทะเบียนรถสวย หมวดอักษร กธ. 301 ป้าย


 สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี แถลงข่าว การประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย หมวดอักษร กธ. “การงานก้าวไกล  ธงชัยแห่งความรุ่งเรือง”  จำนวน 301 หมายเลข เพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูลเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
               (8 พ.ย.55) ที่ห้องหยกแก้ว โรงแรมอุบลอินเตอร์  เนชั่นแนล   จังหวัดอุบลราชธานี   นายวันชัย  สุทธิวรชัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  นายธีระพล  อรุณะกสิกร  ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม ร่วมกันแถลงข่าวการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย หมวด อักษร กธ.  “การงานก้าวไกล  ธงชัยแห่งความรุ่งเรือง”  จำนวน 301 หมายเลข
               สำหรับการประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย ดังกล่าว จะมีขึ้นในวันที่  24 – 25 พฤศจิกายน 2555 ณ โรงแรมอุบลอินเตอร์ เนชั่นแนล จังหวัดอุบลราชธานี   เพื่อนำเงินที่ได้จากการประมูลเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน สนับสนุนและส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน  ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเกิดจากการใช้รถใช้ถนน
               จุดเด่นสำคัญของทะเบียนรถสวยครั้งนี้ จะเป็นแผ่นป้ายที่มีสีสันสวยงาม ลายกราฟฟิก สัญลักษณ์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี หมายเลขที่ได้จากการประมูลสามารถจดทะเบียนรถได้ทันที โดยไม่ต้องรอจดทะเบียนตามลำดับหมายเลขทะเบียน   หมายเลขที่ได้จากการประมูลสามารถนำไปใช้แทนหมายเลขทะเบียนเดิม  และหมายเลขที่ได้จากการประมูลถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ประมูลได้ สามารถโอนสิทธิ์การใช้หมายเลขทะเบียนให้แก่ผู้อื่นได้
               ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลหมายเลขทะเบียนรถสวย หมวด อักษร กธ. “การงานก้าวไกล  ธงชัยแห่งความรุ่งเรือง”  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045-315 346 , 045- 241 294 และ 045-283 917
               

ฉลอง 45 ปี สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี จัดคอนเสิร์ต หงา-ธานินท์

     สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี จัดให้มีคอนเสิร์ต  เพื่อฉลองครบรอบ 45 ปี  วันก่อตั้ง สมาคมฯ พร้อมฉลองครบรอบ 12 ปี สายสัมพันธ์มั่นยืนสื่อมวลชนอุบลฯ กับสมาคมนักข่าว แขวงจำปาสัก สปป. ลาว  ด้านศิลปินโดยนำ  หงา คาราวาน เต็มวง ,ธานินท์  อินทรเทพ พร้อมวง - ลีลาศ , ‘ก็อปปี้แมน’ จ๊อบ ตีสิบ ประชันศิลปินจาก สปป.ลาว บัตรจำหน่ายโต๊ะละ 4,000 บาท ต่อ 8 ท่าน ในศุกร์ที่ 7 ธันวาคม นี้ ที่ โดมวิทยาลัยเทคนิคอุบลฯ เวลา 18.00-23.30 น.
                จากการเปิดเผยของนาย ชลธิษ จันทร์สิงห์ นายกสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ว่า สมาคม ฯ มีพันธกิจหลักๆ คือการจัดกิจกรรมและร่วมกิจกรรมกับองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐ-เอกชน เพื่อการสาธารณประโยชน์และการสาธารณกุศล การเผยแพร่ข้อมูลขาวสาร ร่วมทั้งการช่วยเหลือดูแลสมาชิกที่เจ็บไข้ได้ป่วยล้มตาย แต่เนื่องจากทางสมาคมฯ เป็นองค์กรที่ไม่มีงบสนับสนุนจากภาครัฐ และเอกชน แต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องขับเคลื่อนกิจกรรม เพื่อสาธารณมาอยู่ตลอดเวลา  การระดมทุนเพื่อหารายได้ เพื่อสนับสนุนกิจกรรม จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น   การจัดคอนเสิร์ต ก็เป็นหนึ่ง ใน แนวทางของการระดมทุน  หากท่านซื้อบัตร คอนเสิร์ตครบรอบ 45 ปี สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ในครั้งนี้ ก็เท่ากับว่า ท่านได้มีส่วนร่วมทำการกุศลกับทางสมาคมฯ ด้วยเช่นกัน
                นอกจากนั้น  ด้านสวัสดิการสมาชิก เช่น การช่วยเหลือ ให้กำลังใจ  เมื่อเจ็บป่วย และช่วยเหลือ ปลอบใจญาติๆ เมื่อเสียชีวิต   อีกส่วนหนึ่ง คือการมอบทุนการศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์  ให้กับบุตร-ธิดา ของสมาชิก ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หนึ่งของสมาคมฯ  ที่เคยปฏิบัติมา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้กับผู้ที่ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชน 
                ดังนั้น ทางสมาคมฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ หาทุนสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่าย  การจัดคอนเสิร์ท ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจะนำเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำมาเป็นทุนสำรอง ซึ่งคาดว่าจะได้เงินเข้าสมาคมฯ ไม่ต่ำกว่า หนึ่งแสนบาท ท่านที่สนใจสอบถามรายละเอียด และซื้อบัตรจองโต๊ะได้ที่ สมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี ชั้น 2 อาคาร ศูนย์โอท็อป เซ็นเตอร์ ถ. แจ้งสนิท อ.เมืองอุบลฯ โทร. 081-867-6349 หรือwww.pressubon.comWedNovember2012124045_pr1348.jpg

กิจกรรมลด ละ เลิก เหล้า แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ สำหรับผู้สูงอายุ


ศูนย์ส่งเสริมสุขและพัฒนาผู้สูงอายุ จังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมรณรงค์ลดละเลิกการดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอร์และการสูบบุหรี่ ครั้งที่ 3
 
                วันที่ 9พ.ย.55 ที่ผ่านมา ณ ศาลาวัดแสนสำราญ ชุมชนคำน้ำแซบ ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์ส่งเสริมสุขและพัฒนาผู้สูงอายุ จังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมรณรงค์ลดละเลิกการดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอร์และการสูบบุหรี่ ครั้งที่ 3 นายไชยยันต์ กุคำโกฏ ประธานศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาผู้สูงอายุ จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าว เป็นการพัฒนาศักยภาพด้านสุขภาวะผู้สูงอายุตำบลวารินชำราบ 10 ชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง สามารถลด ละ เลิก การดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ และเลิกสูบบุหรี่ สามารถดำเนินชีวิตได้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 
               กิจกรรมโครงการนี้ ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของการดื่มเหล้า เครื่องดื่มแอลกอฮอร์และการสูบบุหรี่ การทดสอบสมรรถภาพทางกายของผู้สูงอายุ และการตรวจสุขภาพทั่วไป แก่ผู้สูงอายุ

วัดทุ่งศรีเมือง ยกเลิกงานวันที่ 10 พ.ย.นี้ เหตุไม่ตรงกับวัดถุประสงค์ที่แจ้ง


FriNovember2012112747_watthung01.jpg


สาเหตุที่ยกเลิกเพราะว่า มาขออนุญาตเททองหล่อพระเท่านั้น พอมีใบปลิวออกมาแจก จึงรู้ว่ามีการขายสิ่งของบังสุกุล ทางวัดจึงได้ยกเลิกไม่ให้จัดภายในวัด (โดนหลอก)

จังหวัดอุบล ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคล ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดหลังใหม่

  จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับมูลนิธิราชประชาสงเคราะห์ ไทย –กัมพูชา ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคล ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังใหม่

               9 พ.ย.55 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีหลังใหม่ บ้านหนองแก ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี มอบหมายให้ ดร.อุษณา อมาตยกุล ประธานมูลนิธิราชประชาสงเคราะห์ เป็นประธานในโครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับมูลนิธิราชประชาสงเคราะห์ ไทย – กัมพูชา ร่วมกันจัดขึ้น
               สำหรับการปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ ให้ชาวจังหวัดอุบลราชธานี เกิดความรัก หวงแหน ทรัพยากรป่าไม้ ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม
               ในโอกาสนี้ นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานีทุกหมู่เหล่าร่วมกันปลูกต้นไม้ในครั้งนี้ ประกอบด้วย ต้นซากุระ พยุง ยางนา ตะเคียนทอง รวมจำนวน 229 ต้น

ตำรวจเมืองดอกบัวจับแก๊งขโมยรถ กทม.ขายลาว


 ตร.อุบลราชธานี โชว์จับแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์กรุงเทพฯขายต่อประเทศลาวสารภาพซื้อรถดีราคาถูกคันละ 7,000-10,000 บาท ส่งขายมาแล้วถึง 3 ครั้ง      
        8 พ.ย. 2555 ขณะที่ ร.ต.อ.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รองสวป.สภ.เมืองอุบลราชธานีพร้อมชุดสายตรวจดักซุ่มบริเวณสี่แยกถนนเลี่ยงเมือง มุ่งหน้าไปอ.ตระการพืชผล พบรถกระบะอีซูซุสีบอร์นเงินทะเบียน บล 6293 อุบลราชธานีมีนายสุพรรณ ทันธิมา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 บ้านโนนใหม่ ต.คอนสายอ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นโชเฟอร์ขับมาเพียงลำพังและมีพิรุธ
      
       จึงได้ส่งสัญญาณให้จอดเมื่อเปิดผ้าใบหลังรถพบรถจักยานยนต์ฮอนด้าจำนวน 3 คันเมื่อตรวจสอบรถฮอนด้ารุ่นคลิกที่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คมก 31 อุบลราชธานีไม่ตรงกับหมายเลขเครื่อง และเป็นรถที่มีการแจ้งหายไว้ในพื้นที่ สภ.คูคตจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมาส่วนรถอีกสองคันอยู่ระหว่างการตรวจสอบจึงคุมตัวมาสอบสวน
      
       นายสุพรรณสารภาพว่า ซื้อรถทั้ง 3 คันมาจากกรุงเทพฯราคาคันละ 7,000-10,000 บาท เพื่อส่งขายให้ประเทศลาวโดยนำรถออกจากประเทศด้าน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานีพร้อมรับว่าได้ขนย้ายรถขโมยส่งไปขายมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน
      
       จึงแจ้งขอหาลักทรัพย์หรือรับของโจรคุมตัวส่งให้เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุรับตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไผ่ พงศธรเดินสายขอบคุณแนเพลง103FMพรุ่งนี้

ไผ่ พงศธร เดินสายขอบคุณแฟนเพลงชาวอุบล และจังหวัดใกล้เคียง
เปิดโอกาสให้พบปะพูดคุย พร้อมถ่ายรูปคู่กับไผ่ ได้อย่างใกล้ชิดเต็มที่ 
วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2555 นี้ เวลา 18.00-20.00 น.
ที่สถานีวิทยุคลื่นคนสู้ชีวิต FM 103 MHz. 
เชิงสะพานข้ามแม่น้ำมูลหาดคูเดื่อ ติดวัดท่ากกแห่
โดยพิธีกรแสนดี วจีไพเราะ ท้าวอนุชิต ลีลาศสง่างาม

อุบลฯ เตรียมจัดงานสดุดีวีรกรรม พระปทุมวรราชสุริยวงษ์ และงานวันรำลึกแห่งความดี


 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อาคม วามะลุน ประธานมูลนิธิอุทยานบึงบัวอุบลราชธานี เป็นประธานในการประชุมเตรียมความพร้อมในการจัดงาน พิธีบวงสรวง และสดุดีวีรกรรม พระปทุมวรราช สุริยวงษ์ หรือเจ้าคำผง และงานวันรำลึกแห่งความดี ประจำปี 2555 โดยมีผู้แทน จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน คณาจารย์ และ ปราชญ์เมืองอุบลฯ ร่วมประชุมในครั้งนี้ โดย กำหนดจัดงาน ในระหว่างวันที่ 9 -11 พฤศจิกายน 2555 ณ บริเวณทุ่งศรีเมือง โดยมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เวลา 18.00 น. ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 และ พิธีบวงสรวงและสดุดีวีรกรรมเจ้าคำผง ในวันที่ 10 พฤศจิกายน2555 เริ่มตั้งแต่ เวลา 06.30 น. จะมีพิธีสักการะบูชาพระเจ้าใหญ่องค์หลวง ขบวนแห่ พิธีวางขันหมากเบ็งถวายสักการะเจ้าคำผง และเวลา 19.00 น. พิธีสมโภช
               จากนั้นจะมีงานวันรำลึกแห่งความดี ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ๒๕๕๔ เวลา 11.00 น. จะมีการวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์แห่งความดี เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณงามความดีของชาวอุบลราชธานีที่เคยช่วยเหลือทหาร พันธมิตรซึ่งตกเป็นเชลยศึกของกองทัพญี่ปุ่นในระหว่างทำสงครามมหาเอเชียบูรพา ภายในงานยังมีการแสดงนิทรรศการความเป็นมาการก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี นิทรรศการสาธิตภูมิปัญญาอุบลราชธานี การแสดงของศิลปินจังหวัดอุบลราชธานี และการแสดงของนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ ได้รำลึกถึงบรรพบุรุษผู้สร้างเมืองอุบล พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างความดี ความรัก ความสามัคคี ปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิด และสำนึกแห่งความกตัญญู ตลอดจนการอนุรักษ์และธำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมสืบต่อไป

โครงการ NJ ผู้ประกาศปอดสะอาดได้ผล ทำให้พ่อเลิกบุหรี่ได้

  วันที่5 พ.ย.55ที่ห้องบัวทิพย์ 2 ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี สื่อสร้างสุขอุบลราชธานี จัดประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการ NJ ผู้ประกาศปอดสะอาด เพื่อสรุปผลการทำงาน หาแนวทางการรณรงค์รู้เท่าทันพ่อค้าบุหรี่ร่วมกันหลังจบโครงการ แนะสร้าง NJ รุ่นน้องในพื้นที่โรงเรียนต่างอำเภอ รวมทั้งการอบรมผลิตสารคดี หนังสั้นเพื่อรู้เท่าทันพ่อค้าบุหรี่ในระดับอุดมศึกษา
               นายสุชัย เจริญมุขยนันท ผู้อำนวยการสื่อสร้างสุขอุบลราชธานี กล่าวว่า โครงการ NJ (No smoking  jockey) ผู้ประกาศปอดสะอาด ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดอบรมเยาวชนจำนวน 3 รุ่น ให้รู้เท่าทันพิษภัยและกลยุทธ์ของพ่อค้าบุหรี่ ในรูปแบบการเล่าข่าว โดยมีโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ 6 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวารินชำราบ โรงเรียนลือคำหาญวารินชำราบ โรงเรียนวิจิตราพิทยา วิทยาลัยการอาชีพวารินชำราบ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี หลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้อบรมครบตามหลักสูตรทั้งการให้ความรู้เรื่องโทษ พิษภัยของบุหรี่ รู้เท่าทันพ่อค้าบุหรี่ และกฎหมายการควบคุมบุหรี่ เทคนิคการเล่าข่าวโดยเชิญสื่อมวลชนท้องถิ่นเข้าร่วมเป็นวิทยากร ได้แก่ คุณนันนภัส พิมพ์พา ผู้ประกาศข่าวช่อง 11 ดีเจอุ้ย นันทิยา มีแวว ดีเจแหมบ สุพรต อาสนาทิพย์ อ.นพพร พันธุ์เพ็ง ดีเจในท้องถิ่น คุณภานุ มัชฌิมา หัวหน้าฝ่ายข่าวช่อง 11 เป็นต้น โดยรายการเล่าข่าวของเยาวชนเผยแพร่ผ่านช่องสร้างสุข วีเคเบิ้ลทีวี และ youtube
               นางสาวปิยธิดา บุญมานัส เยาวชน NJ ผู้ประกาศปอดสะอาดจากสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ม.ราชภัฎอุบลฯ กล่าวว่าการเข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้เรื่องโทษ พิษภัยของบุหรี่ ทำให้ตนเองเข้าใจและเห็นความสำคัญมากขึ้น ได้นำรายการเล่าข่าวของตนเองไปเปิดให้พ่อฟัง ทำให้พ่อเลิกบุหรี่ได้ในที่สุด              
               ในที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะให้ขยายเครือข่ายเยาวชนรุ่นน้อง NJ ผู้ประกาศปอดสะอาด ไปยังโรงเรียนในพื้นที่ต่างอำเภอ เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชนรณรงค์รู้เท่าทันพ่อค้าบุหรี่ การอบรมผลิตหนังสั้น สารคดี สำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา การรวมกลุ่มฝึกปฏิบัติเล่าข่าวเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อ เป็นต้น

ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยม นรข. เขตอุบลฯ


  ผู้บัญชาการทหารเรือ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี พร้อมมอบนโยบายตั้งศูนย์ปฏิบัติการรับมือภัยแล้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชน
               วันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 ที่ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตอุบลราชธานี พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม และ ให้โอวาทกำลังพลในสังกัด เนื่องในโอกาสที่มีการสับเปลี่ยนกำลังพลในกองทัพ โดยมี นาวาเอก สุทัศน์ อิ่มอุไร ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตอุบลราชธานี พร้อมด้วยกำลังพล ให้การต้อนรับ
               พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำ ให้กำลังพลทุกนายระลึกเสมอว่า เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และ มีหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ นับวันภารกิจมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อยากให้กำลังพลทุกนายเก็บข้อมูลข่าวสารต่างๆ และ ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป พร้อมกันนี้ ได้มอบนโยบายให้หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงทุกหน่วย จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรับมือภัยแล้ง โดยให้มีการเตรียมยุทธโธปกรณ์ และ กำลังพล ในการออกไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ เบื้องต้น พบว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้ประกาศให้ อำเภอโพธิ์ไทร เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งมีนาข้าวขาดแคลนน้ำและได้รับความเสียหายกว่า 3 หมื่นไร่

จับสาวพยายามโยนยาบ้าเข้าเรือนจำอุบลฯ

       จับสาวอดีตนักโทษเรือนจำกลางอุบลราชธานี เมายาพยายามโยนยาบ้าให้นักโทษในเรือนจำ แต่ไปไม่รอดถูกเพื่อนทิ้งจนถูกจับกุมได้       
       เมื่อเวลา 23.20 น.วันที่ 3 พ.ย. นายสุรชัย จันทรภักดี นิติกรชำนาญการเรือนจำกลางอุบลราชธานี พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำจับนางวันทนา สมนึก อายุ 23 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 178 บ้านแขม ต.แขมเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ปีนกำแพงตาข่ายลวดหนามเข้ามาอยู่ติดกำแพงปูนเรือนจำด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นจุดใช้ควบคุมนักโทษคดีอุกฉกรรจ์แดน 2
       
       เมื่อควบคุมตัวนางวันทนาที่อยู่ในอาการเมายาบ้าออกมาตรวจค้นและสอบปากคำทราบว่า หัวค่ำวันเดียวกันมีอดีตเพื่อนนักโทษชายชื่อเล่นว่าหน่อย ขี่จักรยานยนต์มาพบที่บ้านพัก ก่อนนำยาบ้าให้เสพ 2 เม็ด พร้อมบอกให้นางวันทนาปีนข้ามรั้วลวดหนามเข้าไปโยนยาบ้าให้กับนักโทษในเรือนจำ จะให้ค่าจ้าง 5,000 บาท
       
       จากนั้นนายหน่อยพาขี่จักรยานยนต์มาส่งบริเวณด้านทิศใต้ ให้นางวันทนาปีนข้ามกำแพงลวดหนามเข้าไป แล้วจะโยนยาบ้าจามเข้าไปให้ เพื่อให้นางวันทนาโยนต่อข้ามเข้าไปในกำแพงเรือนจำชั้นใน แต่เจ้าหน้าที่บนป้อมยามตรวจพบ นายหน่อยจึงรีบขี่รถหลบหนีไป โดยไม่ได้โยนยาบ้าเข้ามาให้ และทิ้งให้นางวันทนาถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาจับตัวไปไว้ได้ดังกล่าว
       
       สำหรับนางวันทนาเมื่อปีก่อนถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางอุบลราชธานี ข้อหาลักทรัพย์ แต่สู้คดีจนหลุดออกมาได้ เบื้องต้นตั้งข้อหานางวันทนาบุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาลคุมตัวไปดำเนินคดี
       
       สำหรับเรือนจำกลางอุบลราชธานี ในรอบปีนี้ มีแก๊งค้ายาบ้าพยายามโยนยาบ้าเข้าไปให้ผู้ต้องขังภายในเรือนจำและถูกจับได้แล้วถึง9 ครั้งด้วยกัน