วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มาสด้า-ไทยรุ่งผนึกกำลังขายพุ่ง-บริการแน่น

ค่าย"มาสด้า"เร่งเปิดโชว์รูมครอบคลุมทั่วประเทศรับยอดขายโต ล่าสุดดีลเลอร์“บิซ มอเตอร์” ในเครือไทยรุ่งฯ ยึดทำเลสุขุมวิท 65 เปิดศูนย์แห่งใหม่รองรับการขาย-บริการถึง 3 ทุ่ม ขณะที่อีสานตอนล่างได้ “มาสด้าอุบลพิจิตรเพชร” เป็นฐานใหญ่
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากรถยนต์มาสด้าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดียิ่ง ส่งผลให้ปริมาณรถยนต์มาสด้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีปริมาณยนต์มาสด้าอยู่บนท้องถนนมากว่า 250,000 คัน โดยเฉพาะในอนาคตอันใกล้นี้ที่ปริมาณรถมาสด้ากำลังจะเพิ่มขึ้นอีกมากจากจำนวนยอดจองที่ยังมีอยู่อย่างล้นหลาม
ดังนั้นบริษัทจึงต้องเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ เพื่อรองรับกับจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งเป็นการขยายธุรกิจเข้าไปยังแหล่งชุมชนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะย่านเอกมัย ทองหล่อ รวมทั้งรุกจังหวัดที่ใหญ่สุดและเป็นแหล่งรวมเศรษฐกิจของอีสานตอนล่าง คือ มาสด้าอุบลพิจิตรเพชร ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรายใหม่ล่าสุด
แก้วใจ แมคโดนัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไทยรุ่ง เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีความสำคัญ มาสด้า บิซ มอเตอร์ ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 65 ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองแหล่งรวมธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ เป็นโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น มีพื้นที่เกือบ 2 ไร่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยทีมงานที่บริหารงานแบบมืออาชีพ ทั้งด้านการขาย การบริการ ที่ปรึกษาการขาย ช่างเทคนิค พร้อมศูนย์บริการที่สามารถให้บริการแบบครบวงจรครอบคลุมพื้นที่ทั้งย่านเอกมัย พระโขนง คลองตัน พระราม 4 ทองหล่อ
“เรามุ่งเน้นคุณภาพด้านการบริการพร้อมเอาใจใส่ดูแลลูกค้าด้วยความเป็นเลิศ รวมทั้งทีมงานที่ใส่ใจในคุณภาพของการบริการเตรียมรับประชาคมอาเซียน หรือ AEC สร้างความพร้อมด้านคุณภาพของบุคลากรก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ และก้าวสู่เวทีระดับสากล เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจรถยนต์ที่กำลังเบ่งบาน โดยเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการตั้งแต่เช้าและปิดบริการถึง 3 ทุ่ม เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มพนักงานออฟฟิศและนักธุรกิจ”

นายโชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะบุกใจกลางเมืองหลวงแล้ว มาสด้ายังเดินหน้าขยายเครือข่ายสู่ภาคอีสานตอนล่าง ด้วยการเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ คือมาสด้าจังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้ชื่อ อุบลพิจิตรเพชร มอเตอร์คาร์ จำกัด บริหารงานภายใต้การกำกับดูแลของ คุณสมชายและคุณไพวรรณ สร้างถาวร ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์อย่างแน่นหนากับชาวอุบลฯ และชาวอำนาจเจริญ
"โชว์รูมแห่งใหม่นี้มีขนาดใหญ่และมีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย ขณะเดียวกัน “อุบลพิจิตรเพชร มอเตอร์คาร์” ยังมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้จำหน่ายที่มียอดขายติดท็อปอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยจำนวนเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 100 คันอีกด้วย” โชอิชิ ยูกิ กล่าว

อัพเดทซืนวาน ธันวาคม 2555









คืบหน้าไประดับหนึ่งสำหรับคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ย้อนยุคอย่างซืนวาน ด้วยเหตุที่เป็นงานละเอียดจึงใช้เวลาในการก่อสร้างค่อนข้างนาน

อุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี


การเข้าชมอุทยานฯจะไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าชม เนื่องจากขับผ่านบางโซนที่ปล่อยสัตว์เดินไปมาโดยไม่มีกรง และหลายจุดคดเคี้ยวมาก เนื่องจากทางอุทยานฯจะไม่ตัดต้นไม้ ฉะนั้นถนนจึงคดเคี้ยวไปมาเพื่อหลบหลีกต้นไม้ ค่าบริการรถนำเที่ยว20บาท






บขส.ลงนามเดินรถระหว่างไทย-กัมพูชา 2 เส้นทาง

บขส.เตรียมเปิดเดินรถไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ 29 ธ.ค. นี้
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง (บขส.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามสัญญาเดินรถโดยสารระหว่างไทยและกัมพูชา 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ – อรัญประเทศ – ปอยเปต – เสียมราฐ และเส้นทางกรุงเทพฯ – อรัญประเทศ – ปอยเปต – พนมเปญ กับ บริษัท นัทธกันต์ (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนในการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างประเ ทศของกัมพูชา โดยทั้ง 2 เส้นทางนี้จะเปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์ในวันที่ 29 ธันวาคม 2555

นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เส้นทางกรุงเทพฯ – อรัญประเทศ – ปอยเปต – เสียมราฐ มีระยะทาง 424 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง เดินรถฝ่ายละ 2 เที่ยวต่อวัน อัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทาง 750 บาท หรือ 25 เหรียญสหรัฐ และเส้นทางกรุงเทพฯ – อรัญประเทศ – ปอยเปต – พนมเปญ ระยะทาง 719 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง เดินรถฝ่ายละ 1 เที่ยวต่อวัน อัตราค่าโดยสารตลอดเส้นทาง 900 บาท หรือ 30 เหรียญสหรัฐ

“ภายในปี 2556 จะเปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทางได้แก่ เสียมราฐ-ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี, เสียมราฐ-พัทยา, พระตะบอง-จันทบุรี และเส้นทางสีหนุ วิลล์-ตราด ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้ นเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศให้ดียิ่งขึ้น

เคาต์ดาวน์ปีใหม่คึกคัก

พาเหรดจัดเคาต์ดาวน์ บูมเที่ยวปีใหม่ ประชาคมข้าวสารจัดหนักดึงคนร่วมหมื่นเข้างานด้านกทม. เน้นประดับไฟสร้างสีสันย่านราชประสงค์ และผุดอุโมงค์ไฟ LED เป็นครั้งแรก ขณะที่ ททท. ช่วยโปรโมต 18 พื้นที่จัดงาน และเปิดธีมสยามสนุก ใน 8 กิจกรรมทั่วประเทศ พร้อมจัดทำคู่มือไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลรับปีใหม่

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การจัดงานปีใหม่ที่ถนนข้าวสารในปีนี้ใช้งบประมาณราว 1 ล้านบาท โดยมีประชาคมข้าวสารเป็นคนจัดงานในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. โดยมีผู้สนับสนุนหลัก เช่น เครื่องดื่มเอส ที่สนับสนุนในด้านสินค้า เป็นต้น สำหรับจุดเด่นของงานอยู่ที่การแสดงคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียง และการแสดงของวงดนตรี
โดยผู้ประกอบการถนนข้าวสารต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมเคาต์ดาวน์และร่วมสนุกกับกิจกรรมที่จัดขึ้น ซึ่งจะมีของชำร่วยมอบให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ การจัดงานใน 1 วันนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาร่วมงานที่ถนนข้าวสารมากกว่า 1 หมื่นคน และมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้น 20% จากรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารที่มีรายได้เฉลี่ยราววันละ 800 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าราว 960 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้นักท่องเที่ยวได้ทยอยเข้ามาในพื้นที่ข้าวสารแล้ว โดยในภาพรวมคาดว่าที่พักทุกแห่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมากกว่า 80% ยาวไปถึงช่วงหลังปีใหม่
นายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้จัดงานประดับไฟรับเทศกาลปีใหม่ โดยเน้นประดับตกแต่งย่านศูนย์การค้าใจกลาง กทม. บริเวณย่านราชประสงค์ ตั้งแต่แยกชิดลมไปจนถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติ ระยะทางรวม 495 เมตร ระหว่างวันที่ 1ธันวาคม 2555 – 15 มกราคม 2556 โดยมีไฮไลต์คือการจัดทำอุโมงค์ไฟ LED เป็นครั้งแรก ความยาวกว่า 20 เมตร กว้าง 16 เมตร บริเวณสะพานลอยทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส ตั้งแต่หน้าอาคารมณียาเซ็นเตอร์ถึงแยกอังรีดูนังต์ ทั้งนี้มีการประเมินว่าตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ถึงปลายเดือนมกราคม 2556 ย่านราชประสงค์จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 16 ล้านคน และมีเงินสะพัดกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และมียอดการเข้าพักในโรงแรมราว 90%
นายมรกต สุดดี ผู้อำนวยการกองสร้างสรรค์กิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. ได้สนับสนุนการจัดงานเทศกาลปีใหม่ใน 7 จังหวัด 8 กิจกรรมหลัก ภายใต้ธีม "สยามสนุก" ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา ขอนแก่น หาดใหญ่ และภูเก็ต (ตารางประกอบ) โดยในภูเก็ตได้สนับสนุนการจัดงาน 2 งาน รวมถึง ททท. ได้มีการจัดงานเองที่จังหวัดเชียงราย ประกอบกับยังมีการจัดงานอีก 18 พื้นที่ เช่น สุราษฎร์ธานี ตรัง นครศรีธรรมราช จาก อุทัยธานี แพร่ แม่ฮ่องสอน สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ลพบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง อุบลราชธานี สุรินทร์ นครพนม และอุดรธานี ซึ่งททท.ได้ช่วยทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้ พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลตามธีมเดือนมกราคม "สวัสดีเมืองไทย" โดยได้สร้างสรรค์กิจกรรมไหว้พระ ขอพร 9 พระอารามหลวง โดยจัดทำคู่มือแนะนำเส้นทางในการเดินทางไปสักการะพระอารามหลวง เพื่อเป็นการเริ่มต้นอย่างมีความสุขสงบทางใจตามความเชื่อของไทย
นอกจากนี้ ททท. ยังได้จัดกิจกรรมต้อนรับปีใหม่ในเดือนมกราคม 2556 กับกิจกรรม "ไหว้ขอพรเสริมสิริมงคล" เพื่อการเริ่มต้นชีวิตปีใหม่ที่ดี ด้วยการจัดทำคู่มือไหว้เสริมสิริมงคลใน 4 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทาง "ไหว้พระเสริมสิริมงคล 9 พระอารามหลวง" 2.เส้นทาง "ไหว้พระวัด 9 รัชกาล" 3.เส้นทาง "ไหว้พระ 9 วัด ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา" และ 4.เส้นทาง "ไหว้กษัตริย์ 9 พระองค์" ซึ่งเป็นเส้นทางใหม่ที่ ททท.สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ เพื่อร่วมฉลอง 3 ปิติของชาวไทยเนื่องในวโรกาสมหามงคลของ 3 พระองค์ในปี 2555
อนึ่งจากการประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวของ ททท. ในช่วงเทศกาลปีใหม่ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 คาดว่านักท่องเที่ยวจะมีการเดินทางคึกคักในทุกภูมิภาค พบว่าทั่วประเทศมีอัตราเข้าพักกว่า 70% มีนักท่องเที่ยวกว่า 2.36 ล้านคน มีรายได้กว่า 1.31 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 3.2 พันล้านบาท ภาคกลาง 1.6 พันล้านบาท ภาคเหนือ 3.5 พันล้านบาท ภาคใต้ 3.2 พันล้านบาท ภาคตะวันออก 1 พันล้านบาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 600 ล้านบาท โดยภาคเหนือได้รับความนิยมสูงสุด

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เปิดใจ'สมบัติ เมืองอุบล'คนลูกทุ่งเก่าต้องปรับตัว


เปิดใจ'สมบัติ เมืองอุบล'คนลูกทุ่งเก่าต้องปรับตัว

เปิดใจ'สมบัติ เมืองอุบล'คนลูกทุ่งเก่าต้องปรับตัว

          ถ้าเอ่ยถึงนักร้องชายทีมงาน “เจ็ดพลังหนุ่ม” ของวงดนตรี สายัณห์ สัญญา แฟนเพลงรุ่นเก่าจะรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะแต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์โดดเด่น และมีผลงานเพลงบันทึกแผ่นเสียงกันทุกคน

          สมบัติ เมืองอุบล คือหนึ่งในทีมงานนักร้องเจ็ดพลังหนุ่มของวงสายัณห์ ที่ปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่งอยู่ในฐานะคนเบื้องหลัง ในอดีตเคยสร้างนักร้องคู่ขวัญเสียงดี สิทธิพร สุนทรพจน์-สุดา ศรีลำดวน ประดับวงการมาแล้ว และอยู่เบื้องหลังนักร้องอีกมากมายหลายคน แม้จะล้มลุกคลุกคลาน ประสบความสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่วันนี้ สมบัติ เมืองอุบล ยังต่อสู้อยู่ในวงการที่เขารักเข้าสายเลือด

          ก่อนหน้านี้ สมบัติได้ดูแลการผลิตเพลงให้ ตุ้ม พิชิตชัย หรือ ตุ้ม จ่านกร้อง ในงานชุดแรกสังกัดชัวร์เอนเตอเทนเมนต์ จนทำให้ได้รับรางวัล”ดาวดวงใหม่ยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด”ครั้งที่ 7 จากเพลง “พระเอกหน้าใหม่ในใจเธอ” มาแล้ว

          ล่าสุด ทีมข่าว ”คม ชัด ลึก” ได้พบกับสมบัติ เมืองอุบล ในวัย 62 ที่ยังแข็งแรง อีกครั้งกับการอยู่เบื้องหลังนักร้องชื่อ ขวัญใจ มิตรภาพ ที่มีเพลง "หัวใจสิวาย" ที่เป็นเพลงลูกทุ่งอีสานแดนซ์แนวใหม่ โดยอ้างอิงทำนองจาก เพลง "กังนัมสไตล์"
-ที่ผ่านมา เงียบหายไป ไปทำอะไรมาบ้าง
          ที่จริงผมไม่ได้หายไปจากวงการ แต่ซุ่มทำงานกันอยู่ ได้ไปดูแลเพลงนักร้องลูกทุ่งอีสาน ชื่อ เรณู ภูไท ส่วนสิทธิพรกับสุดา ผมปล่อยให้เขาเป็นอิสระดูแลตัวเองมาหลายปีแล้ว

-ช่วงที่ไปทำงานให้ตุ้ม พิชิตชัย เป็นอย่างไร
          ผมได้รับการไว้วางใจจากคุณเปิ้ล วิวัฒน์ ไทยวัฒนานนท์ ซีอีโอค่ายชัวร์เอนเตอเทนเมนต์ให้ติดต่อประสานดูแลงานตุ้ม จ่านกร้อง เข้าสังกัดและเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย ปัจจุบันยังทำให้ค่ายชัวร์อยู่ ตอนนี้งานชุดที่ 2 คืบหน้าไป 60-70 เปอร์เซ็นต์ เหตุที่ช้าไปเพราะเราต้องคัดเลือกเพลง ต้องติวเข้มกันมากๆ ต้นปีหน้าคงได้ฟังกัน แนวเพลงของตุ้มยังเป็นเพลงลูกทุ่งอยู่

-งานล่าสุด ที่ทำลูกทุ่งแบบกังนัมสไตล์ ฉีกแนวไปเลย
          เป็นไอเดียของคุณชัย ศิษย์ประเสริฐ คนที่สร้างคัฑลียา มารศรี เขาเปิดค่ายโรสมิวสิค เขาเปิดโอกาสให้ผมทำงานชุดใหม่ เรณู ภูไท ชุด “ร็อคลำซิ่ง” ก็เลยให้ดูขวัญใจ มิตรภาพไปด้วย เรื่องทั้งงานโชว์ตัว วางแผนโปรโมทครบวงจร

-กลับมาคราวนี้ วงการเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
          วิทยุเปลี่ยนมาหลายปีแล้ว มีวิทยุชุมชนเกิดขึ้นมากมาย ในส่วนวิทยุหลักก็มีเพิ่มหลายช่องขึ้นมาก ทำให้เรามีช่องทางในนำเสนองานขึ้นมาก แต่ผลงานต้องเข้าตา ไม่งั้นดีเจจะไม่หยิบมาเปิด เราต้องชื่นชมดีเจรุ่นนี้ที่เขามีวิวัฒนาการใหม่ เราเคยทำเพลงลูกทุ่งจ๋ามาก่อน จะต้องพัฒนาตามให้ทัน ในแง่เนื้อหาสาระ การร้องซึ่งการเอื้อนเสียงจะเหมือนยุค 30-40 ที่ผ่านมา อาจจะไม่ใช่แล้ว เท่าที่ผมสังเกต ดีเจรุ่นใหม่จะไม่คุ้นเคยกับการขับร้องแบบรุ่นเก่าๆ สักเท่าไหร่ เราต้องปรับตัวตาม ส่วนเนื้อหาสาระ จริงๆ แล้ว เพลงอกหักผิดหวัง รักจริงหวังแต่งก็ใช้ได้อยู่ แต่ประเภทชมนกชมไม้อาจจะต้องลดน้อยลงไป

-เกี่ยวกับทีวีดาวเทียมที่เป็นสื่อใหม่ของลูกทุ่ง
          ทีวีดาวเทียมเกิดขึ้นมาเป็นร้อยๆ ช่องเป็นช่องทางที่นักร้องจะได้มีโอกาส ถ้าเป็นสมัยก่อนคนฟังไม่ได้คำนึงรูปร่างหน้าตานักร้อง ฟังแต่วิทยุ แต่เวลานี้นักร้องที่จะก้าวเข้าวงการ ต้องพร้อมที่จะขายทั้งภาพและเสียง เมื่อก่อนขายเสียงอย่างเดียว เราเองต้องดูภาพลักษณ์ของนักร้องด้วย แต่คนขี้เหร่ก็ยังมีโอกาสครับ อย่างแนวลูกทุ่งเพื่อชีวิตเขาใช้ความสามารถทดแทนหน้าตาได้

-อยู่วงการมากี่ปี และได้สัจธรรมอะไรบ้างในวงการ
          ผมเข้าวงการตั้งปี 2510 ก็ร่วม 45 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้อะไรหลายอย่างจากวงการเพลง ชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้ช่วยเหลือสังคมพอสมควร ส่วนเรื่องของชื่อเสียงที่ขึ้นลง ผมมองว่า เป็นเรื่องธรรมดา มันไม่มั่นคง บางครั้งอาจเงียบหายไปบ้าง ผมเองไม่มีอาชีพเสริมเลย แต่ผมรักชีวิตวงการบันเทิงมาก ทุ่มเทมาก เรื่องเสียหายต่างๆ เราต้องระวัง หลีกเลี่ยง และต้องมีพรรคพวกเพื่อนฝูง มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในวงการ

-ในฐานะรุ่นพี่รุ่นพ่อ มีข้อแนะนำนักร้องรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างไร
          จากประสบการณ์ที่ผ่านมา การที่จะอยู่ในวงการให้ตลอดรอดฝั่งและมีศักดิ์ศรี เราต้องมีความซื่อสัตย์กับตัวเราเองก่อน และต้องมีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพที่เราทำอยู่ อย่างน้อยเราเป็นคนสาธารณะ เป็นคนของประชาชน เมื่อเรารับปากกับใคร เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำอยู่ เรื่องที่สำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งในวงการลูกทุ่ง คือ ความกตัญญู ให้ความรักเคารพผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์ เห็นใจน้องๆ ที่มาใหม่ มีสิ่งไหนดีๆ เราแนะนำกัน คนที่เดินทางมาก่อนย่อมมีประสบการณ์มาถ่ายทอดให้น้องๆ และอาชีพร้องเพลงทำเพลง คนมีพระคุณกับเรา คือ แฟนเพลง และประชาชนทั่วไป เราต้องให้เกียรติคนดู แฟนเพลงด้วย

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ทม.วารินชำราบจัดพิธีถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2555


ทม.วารินชำราบจัดพิธีถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2555
วันที่ 4 ธันาวคม 2555 เวลา 8.30 น. ณ สนามทุ่งคำน้ำแซบ เทศบาลเมืองวารินชำราบ โดยนายจีระชัย  ไกรกังวาร นายกเทศมนตรี ร่วมกับอำเภอวารินชำราบ โดยนายวิรุจ  วิชัยบุญ นายอำเภอวารินชำราบ พร้อมด้วยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อุบลราชธานี, สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ, มณฑลทหารบกที่ 22 อุบลราชธานี คณะครูและนักเรียนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ และประชาชนชาววารินชำราบ ได้ทำพิธีถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2555 อันเป็นแสดงถึงความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยต่อพระองค์ โดยได้รับเกียรติจากนายอดิศักดิ์  เทพอาสน์ รองผู้ว่่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มาเป็นประธานและนำกล่าวคำถวายพระพร พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงพ่อแห่งแผ่นดินด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

เทศบาลเมืองวารินชำราบ จัดการประกวดผู้สูงอายุสุขภาพดี ประจำปี 2555


เทศบาลเมืองวารินชำราบ จัดการประกวดผู้สูงอายุสุขภาพดี ประจำปี 2555
วันที่ 3 ธันวาคม 2555 ณ ศูนย์บริการสาธารณสุขแห่งที่ 1 กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้จัดการประกวดผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี ประจำปี 2555 ขึ้นโดยได้นำผู้สูงอายุของชุมชนทั้ง 28 ชุมชน มาเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเฟ้นหาผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีที่สุด โดยผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากนายจีระชัย  ไกรกังวาร นายกเทศมนตรี ในงานดูแลห่วงใยใส่ใจผู้สูงอายุ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2555 นี้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพให้แก่ผู้สูงอายุ และกระตุ้นให้ลูกหลานได้หันมาใส่ใจผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน

วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เชิญร่วมสร้างอาคารปฏิบัติธรรมพรหมวชิรญาณ ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ก.พ.56

ผศ.ชัยวัฒน์ บุณฑริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ศูนย์พุทธธรรมพรหมวชิรญาณป่าดงใหญ่วังอ้อ ต.หัวดอน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมพรหมวชิรญาณ ๓ ชั้น เพื่อเป็นที่พักปฏิบัติธรรม ชั้นที่ ๑ เป็นที่พักหญิง ชั้นที่ ๒ เป็นที่พักชาย ชั้นที่ ๓ ใช้เป็นห้องอบรม ท่านใดมีความประสงค์จะร่วมสร้างบุญ บารมีทาน และส่งเสริมพระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา ขอเชิญร่วมสนับสนุนบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เข้าปฏิบัติธรรม อาทิ ชุดเครื่องเสียง-เครื่องฉายสื่อวีดิทัศน์ เครื่องนอน เบาะนั่งคอมพิเตอร์ กระติกน้ำร้อน ร่มกันฝน ชุดเครื่องครัวสแตนเลส ถ้วย จาน ชาม และยารักษาโรค เป็นต้น หรือบริจาคผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาถนนชยางกูร ชื่อบัญชี กองทุนสร้างอาคารปฏิบัติธรรมพรหมวชิรญาณ เลขที่ ๐๒๐ ๐๘๒ ๕๕๕๗ ๕๔ สอบถามรายละเอียดที่ พระครูสุขุมวรรโณภาส ผอ.ศูนย์ฯ โทรศัพท์ ๐๗-๘๘๖๘-๘๘๖๘ และ ๐๘-๖๖๒๖-๘๘๘๗
               ในโอกาสนี้ขออนุโมทนากับสายศรัทธา ร่วมแรง ร่วมใจ สร้างที่พักให้คนดี มีธรรม และขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ และร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล เพื่อระดมทุนครั้งใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

อีสานได้โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิช นั่งกุนซือใหญ่เริ่มงาน 3 ธ.ค. นี้


 อีสาน ยูไนเต็ด ได้กุนซือใหญ่ คนใหม่ โดยแล้วหวยออกที่ "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช อดีตกุนซือ "ปลาทูคะนอง" หลัง "เฮียหวด" สมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสร เป็นคนเลือกเอง ได้ค่าเหนื่อย 6 หลัก "โค้ชป้ำ" ประกาศพาทีมซิวแชมป์บอลถ้วย เพื่อให้ได้สิทธิ์ไปเล่น บอลถ้วยเอเชีย ให้ได้เป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร 
               ความเคลื่อนไหวของทีม "กูปรีอันตราย" อีสาน ยูไนเต็ด เจ้าของอันดับ 6 สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่แล้ว ซึ่งทางบอร์ดบริหารกำลังร่วมเฟ้นหาตัวกุนซือใหญ่คนใหม่ที่จะเข้ามารับงานแทน "พยงค์ ขุนเณร" กุนซือคนก่อน ที่ตัดสินใจย้ายไปคุมทัพ สุพรรณบุรี เอฟซี ในซีซั่นหน้า 
               ล่าสุดเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ากุนซือคนใหม่ของทีมอีสาน ยูไนเต็ด เวอร์ชั่น 2013 คือ "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช อดีตกุนซือสมุทรสงคราม เอฟซี และ ราชประชา เอฟซี ที่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับบอร์ดบริหารอีสาน ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการแล้ว
               เกี่ยวกับเรื่องนี้ สยามกีฬาได้รับการเปิดเผยจาก "เฮียหวด" สมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด ถึงการตัดสินใจเลือกตัว วรวรรณ ชิตะวณิช นั่งแท่นกุนซือใหญ่ในครั้งนี้ว่า 
               "เมื่อวันพุธที่ 28 พ.ย. 55 ผมได้นัดคุณวรวรรณ มาพูดคุยถึงรายละเอียดและความเป็นไปได้ของการร่วมงานทำทีมในซีซั่น 2013 เป็นต้นไป เรื่องนี้บอร์ดบริหารอีสาน ยูไนเต็ด ทุกคนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก กับการที่ได้คุณวรวรรณ เข้ามารับงานกุนซือใหญ่ 
               เหตุผลสำคัญที่เลือกคุณวรวรรณ ก็เพราะถือเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับ อีสาน ยูไนเต็ด มากที่สุดในขณะนี้ ผลงานการทำทีมให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมาของคุณวรวรรณ ดูจะสอดคล้องกับเป้าหมายของอีสาน ยูไนเต็ด ในปี 2013 เป็นอย่างยิ่ง 
               สำหรับการประเดิมคุมทีมวันแรกของ คุณวรวรรณ ชิตะวณิช จะเริ่มงานในวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. 55 ที่สนามทุ่งบูรพา จ.อุบลราชธานี เวลา 16.00 น. จะเป็นการเริ่มคุมทีมซ้อมวันแรกอย่างเป็นทางการ"
ฟาด 6 หลัก หวังแชมป์ถ้วยสู่เอเอฟซีชปล.
               พร้อมกันนั้น "เฮียหวด" สมบัติ เกียรติสุรนนท์ ประธานสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด ยังได้เปิดเผยถึงวงเงินค่าเหนื่อย ที่ใช้ในการเซ็นสัญญาว่าจ้าง "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช มานั่งแท่นในตำแหน่งกุนซือใหญ่ด้วยว่า
               "ยอดตัวเลขตรงๆ กับค่าเหนื่อย ในการเซ็นสัญญากับคุณวรวรรณ คงไม่สามารถเปิดเผยอย่างเป็นทางการได้ แต่เอาคร่าวๆ จะอยู่ที่ 6 หลักกลางๆ ตามศักยภาพ และดีกรีของคุณวรวรรณ ในลักษณะสัญญาระยะยาว เพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จที่หวังไว้ นั่นคือศึกไทยลีก จะต้องจบอันดับเลขตัวเดียว
               แต่สิ่งสำคัญที่หวังไว้คือเกมฟุตบอลถ้วยอย่างมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ซึ่งบอร์ดบริหาร อีสาน ยูไนเต็ด ตั้งเป้าไว้สูงถึงการเป็นแชมป์ หากเราทำสำเร็จ อีสาน ยูไนเต็ด จะได้สิทธิ์ลงเล่นรอบเพลย์ออฟเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่เราอยากให้เกิดขึ้น รวมถึงฟุตบอลถ้วยโตโยต้า ลีกคัพ ก็เป็นอีกหนึ่งรายการ ที่เราหวังไว้สูงด้วยการเป็นแชมป์ให้ได้เช่นกัน
               ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นหลักๆ จากปีที่แล้วตอนนี้การันตีได้เลยว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะยังคงอยู่กับทีมต่อไปในปี 2013 ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ จะดำเนินการเจรจาถึงสัญญาฉบับใหม่ หากไม่ลงตัวก็คงจะปล่อยออกจากทีม ส่วนตัวที่จะเข้าใหม่ทางบอร์ดบริหารจะทำการร่วมหารือกับคุณวรวรรณถึงการดึงมาเสริมทัพนับจากวันที่ 3 ธ.ค. เป็นต้นไป"
"โค้ชป้ำ" รับไม้พาอีสานยิ่งใหญ่
 
               ทันทีที่บอร์ดบริหาร อีสาน ยูไนเต็ด การันตีถึงตัวกุนซือใหญ่คนใหม่เป็น "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช สยามกีฬาก็ได้ติดต่อสอบถามถึงความหวังและเป้าหมายของ โค้ชป้ำถึงการเตรียมพาต้นสังกัดใหม่ อีสาน ยูไนเต็ด เดินหน้าสู่ความสำเร็จที่หวังไว้กับแชมป์ฟุตบอลถ้วยรายการใดรายการหนึ่งด้วยว่า
 
 
               "อย่างแรกก็ต้องก็ขอบพระคุณบอร์ดบริหาร อีสาน ยูไนเต็ด ที่ไว้วางใจให้ผมทำหน้าที่กุนซือใหญ่คนใหม่ ผมเองและบอร์ดบริหารมีเป้าหมายและทิศทางการทำทีมที่ตรงกันนั้นกับการรุดหน้าสู่ความสำเร็จที่หวังโดยเฉพาะกับแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ที่ผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชน จากทั้งในและต่างประเทศ จุดนี้จะยิ่งช่วยนำความสำเร็จมาสู่ทีมอีสาน ยูไนเต็ด ตามที่หวังไว้ได้อย่างแน่นอน"
 
               สำหรับเกียรติประวัติการคุมทีมสู่ความสำเร็จของ "โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช คุมทีมเซมบาวัง ในเอสลีก สิงคโปร์ ระหว่าง 1999-2003, คุมทีมแทมปิเนส โรเวอร์ส เอสลีก สิงคโปร์ ระหว่าง 2004-2010 โดยปี 2004 คว้าแชมป์เอสลีก, สิงคโปร์ คัพ พร้อมกับคว้ารางวัลโค้ชยอดเยี่ยมเอสลีก,


        ปี 2005 คว้าแชมป์เอสลีก, อาเซียน คลับ แชมเปี้ยนส์ชิพ และรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมเอสลีก ส่วนปี 2006 คว้าแชมป์สิงคโปร์ คัพ พร้อมกันนั้น โค้ชป้ำยังจบหลักสูตรโค้ชเอไลเซนส์ ที่ได้รับการรับรองจากเอเอฟซีอีกด้วย
 
 

เชิญศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่อยู่ใน จ.อุบลฯ ร่วมงานวันธรมศาสตร์ ปี 2555

ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์อุบลราชธานี ขอเชิญร่วมงาน "เกี่ยวก้อย ร้อยใจ สานสายใย ชาวเหลือแดง"
 
วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2555 ณ ร้านอาหาร แซ่บซอย 9 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 045-262644-9 คุณ การุณ 

http://www.facebook.com/thammasatubonalumni

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี วัดถ้ำภูพระเจ้า อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลฯ

 พระอาจารย์เอกราช ธรรมะธโร เปิดเผยว่า วัดถ้ำภูพระเจ้า (ที่พักสงฆ์) จัดงานผ้าป่าสามัคคี ขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ธันวาคม 2555 ณ วัดถ้ำภูพระเจ้า บ้านนาทอย ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลฯ เพื่อนำเงินไปสร้างศาลาและพัฒนาวัด ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานและบริจาคสมทบทุน ได้ที่ วัดถ้ำถูพระเจ้า โทร 086-8088091

อาชีวะอุบลฯ สุดปลื้ม ชนะเลิศการประกวดเรือประดับไฟฟ้า รับถ้วยพระราชทานฯ

               เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2555  ณ  เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพมหานคร  นายอุทัย ภูริพัฒน์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เข้ารับพระราชทานถ้วยรางวัลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเงินรางวัล 500,000 บาท จากการชนะเลิศการประกวดเรือประดับไฟฟ้า สว่างไสว มหานทีแห่งเจ้าพระยา (The Miracle light of chaopraya)  ในงานเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ปี 2555   ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย.2555
               โดยวันนี้ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2555  เวลา 08.30 น.  ดร. ธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี    นำคณะครู นักเรียน นักศึกษา จัดพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทาน จากสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี มายังวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ซึ่งนำความปลาบปลื้มใจแก่ชาววิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เป็นอย่างยิ่งเพราะนอกจากเรือประดับไฟฟ้าจะได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้แล้ว ยังได้จัดแสดงให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรในค่ำคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมาด้วย

               สำหรับเรือประดับไฟฟ้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี คณะครู เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดทำเรือประดับไฟฟ้าเพื่อถวายในหลวง โดยใช้ชื่อเรือว่า “เทียนธรรมเทียนพรรษา ส่องเจ้าพระยามหานที สายธารหลอมชีวี ใต้ร่มพระบารมี ธ ทรงธรรม” ซึ่งมีแนวคิดในการจัดทำ คือ ประเพณีการทำเทียนพรรษาเป็นอัตลักษณ์ของชาวอุบล ประกอบด้วย ต้นเทียนพรรษา พญานาค และชุมชนคุ้มวัดต่างๆ รวมทั้งสัญลักษณ์ที่สื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ กระต่าย ภาชนะดินเผา และปลานิล ในลำเรือ
               โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว ททท.ได้พิจารณาหน่วยงานที่มีศักยภาพ และชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายด้านงานศิลป์ จำนวน 16 หน่วยงาน   แล้วคัดเลือกให้เข้าร่วมประกวดจำนวน  9  หน่วยงานเข้าร่วมประกวด ได้แก่  1. จังหวัดชัยนาท        2.กองทัพอากาศ  3.โรงเรียนมัธยมวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์  4.กรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ 5. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 6.บริษัทอาร์ต อิท จำกัด  7.สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี     8. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และ 9. บริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด




อบจ.อุบลฯ รับมือภัยแล้งจัดตั้งศูนย์สนับสนุนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค-บริโภค

นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาภัยแล้งปีนี้หลายพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานีเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่มีน้ำอุปโภค-บริโภค ตลอดจนพืชผลทางการเกษตรเริ่มเสียหาย เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ตลอดจนอัคคีภัย หรือ ภัยพิบัติอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน 
               องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี โดยฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดตั้งศูนย์สนับสนุนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภค-บริโภค โดยการจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภค-บริโภค ให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์โอท๊อปเซ็นเตอร์ อบจ.อุบลฯ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 045-250333 สายด่วนอบจ.อุบลฯหรือประสานงานมาที่ สิบเอกเด่นฤกษ์ กุลบุตร หน.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทร 080-1750050