วัดเลียบ ประวัติความเป็นมาจากหลักฐานและบันทึกของพระเดชพระคุณพระโพธิญาณมุนี (สุธีร์ ภทฺทิโย) ปรากฏว่า ก่อตั้งเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๙๑ จ.ศ.๑๒๑๐ ร.ศ.๖๗ ปีวอก สัมฤทธิ์ศก ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ (ไม่พบหลักฐานที่เป็นเอกสารการขอตั้ง)
ส่วนที่มาของชื่อวัดนั้น พระโพธิญาณมุนี ท่านสันนิษฐานไว้ว่า น่าจะเป็นวัดซึ่งสร้างเลียบคันคูเมือง เพราะลักษณะของแนวริมแม่น้ำมูลซึ่งเป็นชั้นสูงแล้วจึงลาดต่ำลงมา ทางทิศเหนือเป็นแอ่งอยู่ระหว่างแนวถนนศรีณรงค์ ในบริเวณซึ่งเรียกขานกันว่าหลุบยางใหญ่ มีหนองน้ำอยู่ เรียกว่าหนองนกทา อีกทั้งยังมีชื่อของถนนเขื่อนธานีปรากฏอยู่
แต่ก็มีบางท่านสันนิษฐานว่า ชื่อวัดนั้นมาจากกิริยาอาการเดินไปตามริมตามขอบของหลวงปู่เสาร์ สำนักสงฆ์แห่งนี้มีอายุได้ ๔๔ ปี มีเจ้าอาวาสปกครองมา ๑๐ รูป จนถึงยุคท่านพระอาจารย์ทิพย์เสนา ทิพฺพเสน (แท่นทิพย์) ซึ่งเมื่อท่านมรณภาพลง ก็ไม่มีพระสงฆ์ใดครองสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่อ เป็นเหตุให้ต้องร้างไปเป็นเวลาเกือบปี
ต่อมาหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ได้มาบุกเบิกเสริมสร้างวัดเลียบขึ้นเป็นวัดธรรมยุตและมาเป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๕ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีญาติโยมเข้ามาช่วย พระอุบลการประชานิจ (บุญชู พรหมวงศานนท์) พระสุรพลชยากร (อุ่น) ท้าวกรมช้างทองจัน และสังฆการีจารปัจฌา สังฆการจารเกษ และทายกทายิกาได้มีศรัทธาช่วยกันปฏิสังขรณ์วัด และขยายพื้นที่วัดเพิ่มเติม โดยสร้างรั้วรอบวัด เสนาสนะและถาวรวัตถุ
ต่อมาหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ขอพระราชทานขอเป็นวิสุงคามสีมา โดยท้าวสิทธิและเฟี้ยเมืองจัน ได้กราบบังคมทูนพระกรุณาเป็นวิสุงคามสีมา ตามพระบรมราชโองการที่ ๘๗ / ๓๐๓ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๔๓๙ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ขนาดกว้าง ๕ วา ยาว ๗ วา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น