โรงหนังจ้องฮุบทำเลทอง

เมเจอร์-เอสเอฟ ยันเดินหน้าแผนขยายสาขา เอสเอฟ ทุ่ม 800 ล้าน จัดหนักตลาดต่างจังหวัด โรบินสัน-สุพรรณบุรี อุบลราชธานี อุดรธานี มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี พร้อมเล็งทำเลประกบคู่พี่เบิ้ม ย่านรังสิต ปิ่นเกล้า บางนา เตรียมเปิดโปรเจ็กต์ยักษ์มูลค่ากว่า 1,000 ล้าน ด้านเมเจอร์ ทุ่มอีก 500 ล้าน 50 โรง ล่าสุดปรับลดค่าตั๋วโรงดิจิตอลลงกว่า 10% ส่วนโปรเจ็กต์ต่างประเทศขออุบไว้ก่อน
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปฯ เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาแม้จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่เมเจอร์ยังสามารถสร้างรายได้เติบโตกว่า 20% สูงกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 10-15% ขณะที่มกราคมปีนี้ เติบโตมากกว่าปีที่แล้วถึง 30% และสำหรับปีนี้เมเจอร์ยังตั้งเป้าเติบโต 10-15% จากจำนวนหน้าหนังฟอร์มยักษ์ ทั้ง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ต้มยำกุ้ง ภาค 2 และภาพยนตร์จากฮอลลีวูดอีกจำนวนมาก 
สำหรับแผนลงทุนปีนี้ จะขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกประมาณ 50 โรง ด้วยงบกว่า 500 ล้านบาท อาทิ สาขาอีเกีย ซีคอน 2 บางแค และทำเลในต่างจังหวัด ทำให้เมเจอร์จะมีโรงภาพยนตร์รวมทั้งหมด 440 โรง จากปีที่แล้วมีจำนวนโรงทั้งสิ้น 386 โรง และยังปรับเปลี่ยนเครื่องฉายจากระบบฟิล์ม มาเป็นระบบดิจิตอล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีโรงดิจิตอลทั้งหมด 200 โรง จากปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 130 โรง และยังมีแผนนำเข้าภาพยนตร์ต่างประเทศมาทำตลาดมากขึ้น เนื่องจากตลาดเริ่มเปิดรับ จากคุณภาพภาพยนตร์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 
ส่วนการลงทุนในประเทศอินเดีย ปีนี้จะเพิ่มโบว์ลิ่งอีก 100 เลน และโรงภาพยนตร์อีก 50 สกรีน จากปีที่แล้วลงทุนไป 20 โรง ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 80-100 ล้าน และสำหรับโปรเจ็กต์ต่างประเทศใหม่ๆ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาทำเล และแผนลงทุน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมภาพยนตร์ในตลาดเอเชียเติบโตมาก ทั้ง มาเลเซีย ไต้หวัน จีน เวียดนาม ที่มีโรงภาพยนตร์ใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยตลาดเอเชีย ได้รับความสนใจจากฮอลลีวูด มีการผลิตภาพยนตร์ที่เจาะตลาดเอเชียมากขึ้น ต่างจากสมัยก่อนที่เน้นตลาดอเมริกาเป็นหลัก 
นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังวางแผนขยายสาขาต่อเนื่อง จากปลายปีที่เปิดไปแล้ว คือ เทอร์มินัล 21 และเซ็นทรัลพระราม 9 ปีนี้ จะเพิ่มสาขาแรกที่ โรบินสัน สุพรรณบุรี, อุบลราชธานี, มหาสารคาม, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี รวมประมาณ 5-6 โปรเจ็กต์ ใช้งบลงทุนรวม 600-800 ล้านบาท จากปัจจุบันมีโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ 126 โรง และต่างจังหวัดอีกราว 100 โรง แบ่งเป็นโรงดิจิตอลประมาณ 80 โรง สิ้นปี 2555 จะมีโรงภาพยนตร์รวมทั้งหมด 300 โรง
"ตอนนี้ตลาดต่างจังหวัด ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพเหมาะกับการขยายสาขา เพราะจาก 2 ค่ายเจ้าของโรงหนัง มีโรงรองรับเพียง 200 โรงจากจำนวนประมาณ 60 ล้านคน ขณะที่กรุงเทพฯ มีจำนวนประชากรเพียง 10 ล้านคน กลับมีโรงหนังรองรับมากกว่า" 
ส่วนทำเลในกรุงเทพฯ ขณะนี้ถือว่ามีโรงภาพยนตร์ครอบคลุมเกือบหมดแล้ว เอสเอฟ ยังขาดเพียงทำเลย่านรังสิต ปิ่นเกล้า และบางนา ที่ยังมองหาทำเล และในปีนี้เอสเอฟยังมีแผนลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่ ที่ใช้งบกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนของการต่อยอดธุรกิจโรงภาพยนตร์ ส่วนเป้าหมายรายได้ คาดว่าจะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 20% จาก 2 สาขา ใหม่ที่เทอร์มินัล 21 และเซ็นทรัลพระราม 9 ที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้ ขณะที่ปีก่อนมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท เติบโต 20%