วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555

พระราชสุเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดอมราวดี ศิษย์ฝรั่งรูปแรกหลวงพ่อชา สุภัทโท


                พระราชสุเมธาจารย์ (โรเบิร์ต สุเมโธ) เจ้าอาวาสวัดอมราวดี เมืองฮาร์ดฟอร์ด ประเทศอังกฤษศิษย์ฝรั่งรูปแรกของพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา  สุภทฺโท) ดีกรีปริญญาโทรูปนี้ เป็นอดีตนาวิกโยธินหนุ่มชาวอเมริกัน นามว่า โรเบิร์ต สุเมโธที่หันมาสนใจใฝ่รู้เรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่ครอบครัวนับถือศาสนาคริสต์ และเข้าโบสถ์มาตั้งแต่เด็ก แต่ทว่าศรัทธาก็ยังไม่เกิด กระทั่งได้สมัครเข้าเป็นทหารเรือ และได้ไปประจำการที่ญี่ปุ่น มีโอกาสได้ศึกษาพระพุทธศาสนานิกายเซนจากการอ่านตำรับตำราต่างๆแต่ก็ยังมิได้ลงมือปฏิบัติ กระทั่งออกจากกองทัพเรือและกลับไปเรียนต่อจนจบปริญญาโท ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสมาเมืองไทย และได้รู้ว่าที่กรุงเทพฯ มีอาจารย์สอนกรรมฐานหลายรูป ในปี 2509 ก็ได้มาเป็นอาสาสมัครครูสอนภาษาอังกฤษที่หาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และได้มีโอกาสไปศึกษาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม ที่วัดมหาธาตุฯ อยู่ราว 6 เดือนก็เกิดความรู้สึกว่าอยากบวช ดังนั้น ในปีนั้นเองจึงได้ไปบวชที่จังหวัดหนองคาย พระอุปัชฌาย์ในสมัยนั้นคือ พระราชปรีชาญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดหนองคาย ปีแรกได้บรรพชาเป็นสามเณรก่อน และฝึกหัดปฏิบัติกรรมฐาน ต่อมาจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และพระอุปัชฌาย์ได้ส่งท่านสุเมโธไปจำพรรษากับพระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา  สุภทฺโทที่วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
                ที่วัดหนองป่าพง ท่านสุเมโธได้มีโอกาสศึกษาและเรียนรู้วิถีการปฏิบัติธรรมจากหลวงพ่อชามากมาย ขณะเดียวกันก็มีชาวต่างประเทศเข้ามาบวชและศึกษาปฏิบัติธรรมในวัดหนองป่าพงมากขึ้น ดังนั้น  ในปี 2518 หลวงพ่อชาจึงได้จัดตั้ง วัดป่านานาชาติ” ขึ้นที่บ้านบุ่งหวาย ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ  จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากวัดหนองป่าพง ราว 8 กิโลเมตร โดยให้ท่านสุเมโธเป็นผู้ดูแล หลังจากนั้นอีก 1 ปี ท่านสุเมโธก็ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่อเมริกา ขากลับได้แวะพักที่พุทธวิหารธรรมประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปฏิปทาและวัตรปฏิบัติของท่านก่อให้เกิดความเลื่อมใสแก่คณะผู้ศรัทธาที่นั่น จึงได้นิมนต์ท่านให้พำนักอยู่ เพื่อเป็นผู้นำในการปฏิบัติ แต่ท่านสุเมโธบอกว่า จะต้องนำไปกราบเรียนครูบาอาจารย์ คือหลวงพ่อชาก่อน

                ต่อมาในปี 2520 ท่านสุเมโธ และหลวงพ่อชา ก็รับนิมนต์ไปเผยแผ่ธรรมที่อังกฤษ หลังจากนั้น หลวงพ่อชาก็ให้ท่านสุเมโธอยู่เผยแผ่ธรรมที่อังกฤษต่อไป ตลอด 30 ปีแห่งการเผยแผ่ธรรม และการจัดตั้งวัดอมราวดีในประเทศอังกฤษ รวมทั้งการบริหารจัดการดูแล แม้เป็นงานที่หนักเหนื่อย และมีอุปสรรคมากมายเพียงใด แต่ด้วยความมานะอดทนและมุ่งมั่นในการทำงานให้พระศาสนาของพระสุเมโธ ทำให้ทุกอย่างสำเร็จลงด้วยดี
                ปี 2547 พระสุเมโธ ก็เป็น 1 ใน พระสงฆ์ 73 รูปที่ได้รับพระราชทานแต่งตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์สำหรับพระสงฆ์ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระศาสนาและประเทศชาติเป็นกรณีพิเศษ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 12 ส.ค. 2547 พระสุเมโธได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุเมธาจารย์
               ในเดือนพฤษภาคม 2550 พระราชสุเมธาจารย์ ได้เดินทางมาร่วมงานประชุมชาวพุทธนานาชาติ ครั้งที่ 4 เนื่องในวันวิสาขบูชา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน 2554 ได้เดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระมงคลกิตติธาดา (หลวงพ่ออมร เขมจิตโต) วัดป่าวิเวกธรรมชาน์ อ.ม่วงสามสิบ  จ.อุบลราชธานี ซึ่งท่านเจ้าคุณโรเบิร์ต ศิษย์ฝรั่งรูปแรกของหลวงพ่อชา ในวัย 78 ปี พรรษา 46 ยังคงเดินหน้าเผยแผ่ธรรมทางตะวันตก ด้วยวัตรปฏิบัติและปฏิปทาอันงดงาม ยังความศรัทธาให้เกิดขึ้นแก่ผู้พบเห็นสมเป็นสาวกแห่งพระศาสดาสัมมาสัมพุทธะ และศิษย์หลวงพ่อชาโดยแท้
               หลายสิบปีมาแล้ว หลวงปู่ชา สุภัทโท กล่าวว่า ดอกบัวกำลังบานทางทิศตะวันตก” ซึ่งหลวงปู่ชาท่านมีความสามารถมากในการถ่ายทอดธรรม แม้แต่ต่างชาติต่างภาษายังทำให้เมล็ดบัวในตัวท่านเหล่านั้น แตกกอ ผลิดอก และเบ่งบานขจรไกลไปทั่วโลก. มีวัดสาขาวัดหนองป่าพงมากกว่า 10 แห่งในต่างประเทศ ส่งผลให้จังหวัดอุบลราชธานี และประเทศไทยเป็นที่รู้จักในด้านพุทธศาสนา และมีชาวต่างประเทศศรัทธามาบวชจำพรรษาที่วัดป่านานาชาติอย่างต่อเนื่องในเดือนมกราคม 2555 สัปดาห์ปฏิบัติธรรมถวายเป็นอาจาริยบูชา ครบรอบ 20 ปี หลวงปู่ชาละสังขาร ท่านเจ้าคุณพระราชสุเมธาจารย์เดินทางมาร่วมงานปฏิบัติธรรมที่วัดหนองป่าพงได้แสดงธรรมให้พุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมและมีเมตตาอนุญาตให้นำประวัติ หลักธรรม คำสอนข้อวัตรปฏิบัติในการสืบทอดพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องเผยแผ่ให้ประชาชนทราบตามความเหมาะสมต่อไป....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น