วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ธุรกิจรับติดตั้งถังก๊าซเดือด


ธุรกิจรับติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซแข่งเดือด "เอนเนอร์จี รีฟอร์ม"ชูโปรดักต์ใหม่ รองรับLPG และ NGV ในรถไฮบริด พร้อมเปิดเอ็กซ์คลูซีฟ ดีลเลอร์ รูปแบบใหม่ ให้บริการแบบ วัน สต็อป เซอร์วิส หวังปูทางรับเออีซี มั่นใจแนวรุกดันยอดขาย 1.2 พันล้าน ด้าน "เวอร์ซุส" ไม่หวั่น เดินหน้าขยายศูนย์บริการมาตรฐาน-พัฒนาเทคโนโลยีจูนก๊าซเอง 
นายสุรศักดิ์ นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจรับติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซในปีนี้มีการแข่งขันสูงมาก โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 5 พันล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ตัวเลขการติดตั้งในช่วง 6 เดือนมกราคม - มิถุนายนที่ผ่านมาพบว่า แอลพีจี เพิ่มขึ้น 22% หรือเฉลี่ยรถที่เข้ามาติดตั้งต่อเดือนประมาณ 1.5 หมื่นคัน โดยในที่นี้แบ่งออกเป็นแอลพีจี 85% และ เอ็นจีวี 15%
ด้านจำนวนประชากรรถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซในประเทศไทยมีแล้วกว่า 1 ล้านคัน แบ่งออกเป็น แอลพีจี 7.5 - 8 แสนคัน และเอ็นจีวี 2 แสนคัน ขณะที่ผู้ประกอบการในตลาดมากกว่า 20 -30 ราย ด้านเอนเนอร์จี รีฟอร์ม ปัจจุบันให้บริการรับติดตั้งอุปกรณ์ถังก๊าซ แบ่งออกเป็น แอลพีจี 90% และ 10% เป็นเอ็นจีวี โดยในส่วนแอลพีจี เอนเนอร์จี รีฟอร์ม มีส่วนแบ่งทางการตลาด 55%
"ตลาดรับติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะราคาน้ำมันที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น และแม้ว่าราคาก๊าซจะมีการขยับตาม แต่ก็ยังคงถูกกว่าราคาน้ำมันครึ่งหนึ่ง และในอนาคตหากปตท.มีความสนใจและเปิดสถานีบริการแอลพีจีเพิ่มขึ้น บวกกับรัฐบาลให้การสนับสนุน ปัจจัยเหล่านี้ก็ยิ่งมีส่วนให้อุตสาหกรรมก๊าซเติบโต"
นายสุรชัย นิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนเนอร์จี รีฟอร์ม จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันที่รุนแรงทำให้บริษัทมีการวางแนวทางตลาดเพื่อรับมือ โดยในไตรมาส 3 ได้เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ได้แก่ THE INNOVATION OF GAS TECHNOLOGY 4 in 1 หรือ "ENERGY 4.0" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวีที่สามารถติดตั้งลงในรถยนต์ไฮบริดได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ
สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นครั้งแรกของโลก สามารถรองรับการใช้พลังงาน 4 ระบบ ทั้งเอ็นจีวี, แอลพีจี, ระบบไฟฟ้าและน้ำมัน โดยบริษัทได้มีการทดสอบและใช้งานจริงเป็นระยะเวลาประมาณ 4 เดือน และจะมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน "NGV Bangkok 2012" ที่จะจัดขึ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ไบเทค บางนา
"เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของสินค้าตัวใหม่นี้ เพราะเรามองว่าสินค้าใหม่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่เราพัฒนา อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากเปิดตัวไปจะมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ โดยปัจจุบันราคาติดตั้งจะอยู่ที่ 2.6 - 3.6 หมื่นบาทในส่วนของแอลพีจี ส่วนการติตตั้งเอ็นจีวี สนนราคาเริ่มต้นที่ 3.2 - 4.2 หมื่นบาท"
นอกจาก"ENERGY 4.0" แล้วในไตรมาสที่ 4 ได้เตรียมจะพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดอีกหนึ่งรุ่น โดยในตอนนี้อยู่ในระหว่างการพูดคุยกับซัพพลายเออร์จากอิตาลี คาดว่าจะได้เห็นปลายปีอย่างแน่นอน 
นายสุรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว ในแง่ของเครือข่ายศูนย์บริการก็เตรียมจะพัฒนาเป็นเอ็กซ์คลูซีฟ ดีลเลอร์ เอนเนอร์จี รีฟอร์ม โดยนอกจากจะรับติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซแล้ว ยังจะมีบริการแบบ วัน สต็อป เซอร์วิส หรือซ่อมด่วน-ซ่อมเบา อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง,แบตเตอรี่ และการตรวจเช็กน้ำมัน ซึ่งตามแผนงานที่วางไว้จะมี 3 ขนาด คือ เอส ลงทุนเริ่มต้น 3 ล้าน ,เอ็ม และ แอล ที่ลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท โดยคาดว่ารูปแบบใหม่นี้จะคืนทุนในระยะเวลา 1 - 2 ปี 
ปัจจุบัน เอนเนอร์จี รีฟอร์ม มีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 200 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งตามแผนงานในปีนี้จะมีการพัฒนาศูนย์บริการรูปแบบใหม่ประมาณ 10 แห่ง อาทิ พระราม 3,งามวงศ์วาน ,สระบุรี,ศรีราชา,อุบลราชธานี และภายในปี 2556 ตัวแทนจำหน่ายทั้ง 200แห่งจะพัฒนาเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น