วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

เซ็นทรัลชิงรุก-รับเออีซี ชู 2 หัวหอกซีอาร์ซี-ซีพีเอ็นบุกค้าปลีกตปท.

เปิดยุทธศาสตร์ "เซ็นทรัล" รุก-รับเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เผยแผน "รุก" เร่งขยายการลงทุนต่างประเทศผ่านซีอาร์ซีและซีพีเอ็น ขณะที่แผน "รับ" ในเมืองไทยใช้ "โรบินสัน" หัวหอกขยายสาขาริมตะเข็บชายแดน รับกำลังซื้อรอบนอก พร้อมเดินหน้าปรับแผนการตลาดเน้นสร้างแบรนด์ การเข้าถึงลูกค้าผ่านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง

หลังจากที่กลุ่มเซ็นทรัล ประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปิดเออีซีอย่างเต็มที่ ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ พร้อมเตรียมแผนกำหนดเป็นยุทธศาสตร์เพื่อให้ทุกกลุ่มธุรกิจมีทิศทางในการดำเนินการไปในทางเดียวกัน โดยกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเน้นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มีบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือซีอาร์ซี เป็นแกนหลักในการลงทุนต่างประเทศ ควบคู่กับบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) (ในเครือซีอาร์ซี) ที่เน้นการลงทุนในประเทศ และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ซึ่งจะเน้นการพัฒนาศูนย์การค้าทั้งในและต่างประเทศ 

นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา , เซ็นทรัลเวิลด์ ,เซ็นทรัล เฟสติวัล เปิดเผยว่า กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะมีขึ้นในปี 2558 ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทศึกษาตลาดในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมวางแผนทั้งเชิงรุกและเชิงรับกับการแข่งขันที่จะมีขึ้น โดยในเชิงรับ เป็นการขยายสาขาในจังหวัดชายแดน เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี หาดใหญ่ เชียงใหม่ ลำปาง และเชียงราย เพื่อรองรับลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ อุดรธานี รองรับกลุ่มลูกค้าจากลาวตอนกลาง ,อุบลราชธานี จะรองรับลูกค้าลาวตอนใต้ ส่วนหาดใหญ่ รองรับลูกค้าในภาคใต้และจากมาเลเซีย เป็นต้น 

ส่วนเชียงใหม่ ลำปาง และเชียงราย สามารถรองรับลูกค้าจากลาว พม่า และจีนได้ และในอนาคตการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 ประเทศคือ ไทย ลาว และจีน เปิดให้บริการจะส่งผลให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยง่ายขึ้น ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ซีพีเอ็นได้เข้าไปลงทุนพัฒนาศูนย์การค้าที่ชิงเต่า ประเทศจีนร่วมกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งขณะนี้ชะลอแผนการลงทุนและรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในจีนอีกครั้ง ซึ่งบริษัทเองก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อทัน นอกจากนี้ซีพีเอ็นยังศึกษาแผนลงทุนในประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อหาลู่ทางการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพ อาทิ อินโดนีเซีย ,เวียดนาม , พม่า แต่จะเลือกประเทศที่มีความพร้อมและเหมาะสมมากที่สุด 

ในปี 2556 ซีพีเอ็น จะเปิดให้บริการศูนย์การค้ารวม 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี ในเดือนเมษายน ,ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ เดือนตุลาคม และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เดือนพฤศจิกายน 

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าในอนาคตการเติบโตของหัวเมืองหลัก จะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ ในการเข้าไปลงทุนพัฒนาศูนย์การค้า ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับจังหวัดนั้นๆ อีกทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับท้องถิ่น จากการกระจายการลงทุน การสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเจริญ กระตุ้นให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ส่วนการลงทุนอีกกลุ่มของเครือเซ็นทรัล จะอยู่ภายใต้การดูแลของซีอาร์ซี โดยซีอาร์ซีเองเตรียมแผนการลงทุนแบบ 360 องศา โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมเป็นหลัก ทั้งการเข้าไปลงทุนเอง 100% , การร่วมลงทุน และการซื้อกิจการ ขณะที่ซีอาร์ซี จะเน้นการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนการลงทุนในประเทศมอบหมายให้โรบินสัน เป็นหัวหอกในการเดินหน้า ซึ่งนายปรีชา เอกคุณากุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า โรบินสันมีแผนขยายสาขาใหม่อีก 5 แห่งในปี 2556 โดยเน้นการขยายสาขาในจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นหลังการเปิดเออีซี 

ปัจจุบันโรบินสันมีสาขารวม 27 แห่งทั่วประเทศ และกำลังจะเปิดอีก 3 แห่งในปีนี้ที่สุราษฎร์ธานี บางแค และลำปาง ใช้งบลงทุน 500 ล้าน - 1 พันล้านบาทต่อสาขา โดยมีสาขาที่เปิดให้บริการในจังหวัดตะเข็บชายแดนหรือจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านรวม 3 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี และกำลังจะเปิดที่กาญจนบุรี 

"การขยายสาขาใหม่ของโรบินสัน ส่วนหนึ่งเพื่อรองรับการเปิดเออีซีที่จะมีขึ้นในปี 2558 โดยในปีหน้าโรบินสันจะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ทั้งในจังหวัดที่มีศักยภาพและจังหวัดที่เป็นเขตรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สกลนคร ซึ่งจะพัฒนาเป็นห้างสรรพสินค้าขนาด 3 - 3.5 หมื่นตารางเมตร ใช้งบลงทุน 800 ล้านบาท"

นอกจากนี้โรบินสัน ยังมีแผนที่จะปรับปรุงโรบินสัน อุดรธานีในปลายปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคจากฝั่งลาวด้วย หลังจากที่พบว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจากสปป.ลาว มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา 

ด้านดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูนสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น กล่าวว่า เซ็นทรัลเริ่มนำกลยุทธ์ Digital Marketing เข้ามาใช้เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจเรื่องของดิจิตอลมากขึ้น โดยล่าสุดซีพีเอ็นใช้งบลงทุน 80 ล้านบาท นำแพลตฟอร์ม Integratal Digital Marketing ครบวงจรเข้ามาใช้ เพื่อให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมผ่านกลยุทธ์เปลี่ยนลูกค้าเป็นเพื่อนด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในการสื่อสาร 2 ทางหรือ two - way communication ผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ ทำให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมกับศูนย์การค้าได้

"ปัจจุบันลูกค้าของศูนย์การค้ามีทั้งคนไทยและต่างประเทศ เช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะมีลูกค้าชาวต่างชาติประมาณ 50% ทั้งชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน อังกฤษ เยอรมนี รัสเซีย อินเดีย เป็นต้น ส่วนสาขาติดกับชายแดนเช่น อุดรธานี จะมีลูกค้าจากลาวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ย 600-700 คนต่อวัน สาขาเชียงรายมีลูกค้าจากพม่าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 300-400 คนต่อวัน ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่เข้ามาใช้บริการส่วนใหญ่เข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์เนม"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น