วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2555

กระทรวงคมนาคม จัดเสวนาแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง

กระทรวงคมนาคม จัดเสวนาแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อสร้างอนาคตของประเทศไทยและรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน กระทรวงคมนาคมจัดเสวนา “โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และร่วม รับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๓” เพื่อวางรากฐานการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจในระยะยาว สนับสนุน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ พร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน เสวนา “โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมรับฟังความคิดเห็นของสาธารณชนต่อ แผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๓” ในวันศุกร์ที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๕ ณ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาค ส่วนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ เพื่อยกระดับความสนใจของประชาชนต่อแผนการลง ทุนโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ และจัดทำรายงานการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน พื้นที่ที่มีต่อแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประกอบการจัดทำร่างพระราชบัญญัติลงทุน โครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวง คมนาคม ได้แก่ การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้า ๑๐ สายทาง โดยเก็บค่าบริการ ๒๐ บาทตลอดสาย พัฒนาการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี และพัฒนาท่าอากาศยานสากล ท่าอากาศยานภูมิภาค และอุตสาหกรรมการบินของไทย พร้อมทั้ง รองรับการเข้าร่วมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยรัฐบาลได้จัดทำแผน ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๓ วงเงินลงทุน ๒ ล้านล้านบาท ครอบคลุม ทั้งการขนส่งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีก ๑๐ – ๑๕ ปีข้างหน้า โดยแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ ส่วนใหญ่เป็นโครงการด้าน คมนาคมขนส่ง อันส่งผลดีต่อการพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ซึ่งแผนการ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานฯ ดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาวที่มีผลกระทบต่อประชาชนในทุกภาค ส่วน ดังนั้น การดำเนินงานตามแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ จึงจำเป็นต้องสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ การมีส่วนร่วม และสร้างความตื่นตัวของประชาชนในพื้นที่ เพื่อยกระดับความสนใจ ของประชาชนต่อแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของประเทศ รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของผู้เกี่ยว ข้อง และมีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานฯ ที่จะเกิดในแต่ละ ภูมิภาค สำหรับการรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ ในส่วน ของกระทรวงคมนาคม จำเป็นต้องพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทุกด้านให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ โดยตั้งเป้าหมายที่จะมุ่งลดสัดส่วนต้นทุนโลจิสติกส์ของ ไทย จากปัจจุบันร้อยละ ๑๗.๙ ต่อ GDP ให้ลดลงเหลือร้อยละ ๒ ภายในระยะเวลา ๕ ปี ทั้งนี้ใน ส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม จะเป็นสัดส่วนของต้นทุนภาคการขนส่งประมาณร้อย ละ ๘.๗ ซึ่งการดำเนินโครงการทุกโครงการจะต้องส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขน ส่ง จากปัจจุบันที่มีการขนส่งในภาคทางบกสูงถึงร้อยละ ๘๖ ภาคการขนส่งทางน้ำร้อยละ ๑๒ ภาค การขนส่งทางรางร้อยละ ๒ และภาคการขนส่งทางอากาศร้อยละ ๐.๐๒ จะต้องส่งเสริมให้มีการขน ส่งทางน้ำและทางรางเพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางน้ำเป็นร้อย ละ ๑๔ และการขนส่งทางรางร้อยละ ๔ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดในภาค ตะวันออก เฉียงเหนือที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจทางภาคอีสาน เนื่องจากเป็นจังหวัด เศรษฐกิจชายแดนไทย – ลาว มีมูลค่ารวม ๑๑๑,๐๒๐ ล้านบาท ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ มีการไปมา หาสู่กันด้านการค้า การท่องเที่ยวระหว่างไทย – ลาว ผ่านทางด่านพรมแดนช่องเม็ก – วังเต่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเป็นประชาคม เศรษฐกิจเสรีอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ โดยผลักดันให้มีการพัฒนาและการลงทุนระบบคมนาคมขน ส่ง พัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ในภูมิภาคและเชื่อมโยงกับโครงข่ายคมนาคมกับประเทศ เพื่อนบ้านตามแนวเศรษฐกิจ ปรับปรุงระบบอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่งสินค้า ข้ามแดนในพื้นที่บริเวณชายแดนที่สำคัญ ได้แก่ ด่านหนองคาย แม่สอด มุกดาหาร สระแก้ว ด่าน สิงขร และช่องเม็ก กระทรวงคมนาคมมีภารกิจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง จึงได้ จัดเสวนาฯ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ เสีย รวมทั้งประชาชนในระดับท้องถิ่นต่อแผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๖๓ และนำผลที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นในครั้งนี้ มาใช้วิเคราะห์ปัญหา และโอกาสของโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ประชาชน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น