ตะลึง! เจอโครงกระดูกมนุษย์ กองอยู่โคนเสาไฟฟ้าแรงสูง ถนนเรียบริมน้ำมูล อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ตำรวจ คาด มาลักขโมยตัดสายสลิงยึดเสาไฟฟ้า แต่เกิดพลาดโดนไฟฟ้าช็อตดับสยอง...
(9 ก.ย.55) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.สมอาจ แคนเถาว์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานีว่า มีชาวบ้านพบโครงกระดูกคนตายในป่าบริเวณโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง ถนนเรียบริมน้ำมูล บ้านท่ากกแห่ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนเรียบริมน้ำมูล บ้านท่ากกแห่ หมู่ที่ 8 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จุดที่พบโครงกระดูก อยู่ลึกลงไปจากถนนประมาณ 6 เมตร สภาพโครงกระดูก สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงยีนส์ เหลือแต่กระดูก บริเวณโคนเสาไฟฟ้าแรงสูงมีกระเป๋าสะพาย ภายในมีนอตเหล็ก ไฟฉายแบบคาดหัว ประแจเลื่อน อะลูมิเนียมเส้น และหมวกคลุมที่มีรอยไหม้ อีกทั้งยังพบสายสลิงยึดเสาไฟฟ้าที่ถูกถอดเรียบร้อยแล้วตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
(9 ก.ย.55) เวลา 08.30 น. ร.ต.อ.สมอาจ แคนเถาว์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อุบลราชธานีว่า มีชาวบ้านพบโครงกระดูกคนตายในป่าบริเวณโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง ถนนเรียบริมน้ำมูล บ้านท่ากกแห่ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนเรียบริมน้ำมูล บ้านท่ากกแห่ หมู่ที่ 8 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จุดที่พบโครงกระดูก อยู่ลึกลงไปจากถนนประมาณ 6 เมตร สภาพโครงกระดูก สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงยีนส์ เหลือแต่กระดูก บริเวณโคนเสาไฟฟ้าแรงสูงมีกระเป๋าสะพาย ภายในมีนอตเหล็ก ไฟฉายแบบคาดหัว ประแจเลื่อน อะลูมิเนียมเส้น และหมวกคลุมที่มีรอยไหม้ อีกทั้งยังพบสายสลิงยึดเสาไฟฟ้าที่ถูกถอดเรียบร้อยแล้วตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
สอบถามนายประสิทธิ์ ศรีรักษา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.4 ต.จาน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ผู้พบศพคนแรกเล่าว่า ตนเองได้ออกมาหาขุดมันในป่าเพื่อจะเอาไปขาย ขณะที่กำลังเดินเข้าไปในป่า ใต้เสาไฟฟ้า พบกระเป๋าเครื่องมือวางอยู่ ทีแรกตนคาดว่าจะมีช่างไฟลืมเครื่องมือไว้ จึงได้หยิบมาดู แต่เมื่อเดินสำรวจดูรอบๆ ตนก็ต้องตกใจวิ่งหนีป่าราบ เมื่อพบโครงกระดูกอยู่ไม่ห่างกันจากจุดที่พบกระเป๋า พอตั้งสติได้จึงรีบไปบอกชาวบ้าน ให้พากันมาดูและแจ้งตำรวจตรวจสอบ
ในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น จู่ๆ ได้มีนางสุบรรณ ไยสอน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.8 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี ได้มาแจ้งว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นนายม้ง หลอมคำ อายุ 30 ปี สามีของตน ที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่ 13 ส.ค.55 โดยมีคนพบเห็นครั้งสุดท้ายที่ทุ่งนากลางหมู่บ้าน จากนั้นก็ไม่มีผู้พบเห็นอีกเลย ตนและญาติได้ออกตามหา แต่ก็ไม่พบจนมีชาวบ้านไปแจ้งว่าพบโครงกระดูกคาดว่าน่าจะเป็นนายม้ง ตนจึงได้มาดู ซึ่งก็เป็นนายม้งจริงๆ เพราะเสื้อผ้าในที่เกิดเหตุเป็นชุดที่นายม้งสวมใส่ออกจากบ้านในวันดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.สมอาจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะมาลักขโมยตัดสายสลิงยึดเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยการปีนขึ้นไปถอดนอตบนเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่เกิดพลาดศีรษะไปแตะสายไฟ และมือก็จับกับสลิงที่ต่อไปลงดินจนไฟช็อต ร่างกระเด็นตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบโครงกระดูกพบว่า กะโหลกศีรษะมีรอยไหม้ ดำ และมือขวาของโครงกระดูกเป็นรอยดำคล้ายถูกไฟฟ้าช็อตเช่นกัน
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรอผลการตรวจชันสูตรยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง แต่หากญาติไม่ติดใจ ก็จะให้ดำเนินการรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่นั้น จู่ๆ ได้มีนางสุบรรณ ไยสอน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.8 ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี ได้มาแจ้งว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นนายม้ง หลอมคำ อายุ 30 ปี สามีของตน ที่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่ 13 ส.ค.55 โดยมีคนพบเห็นครั้งสุดท้ายที่ทุ่งนากลางหมู่บ้าน จากนั้นก็ไม่มีผู้พบเห็นอีกเลย ตนและญาติได้ออกตามหา แต่ก็ไม่พบจนมีชาวบ้านไปแจ้งว่าพบโครงกระดูกคาดว่าน่าจะเป็นนายม้ง ตนจึงได้มาดู ซึ่งก็เป็นนายม้งจริงๆ เพราะเสื้อผ้าในที่เกิดเหตุเป็นชุดที่นายม้งสวมใส่ออกจากบ้านในวันดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.สมอาจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะมาลักขโมยตัดสายสลิงยึดเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยการปีนขึ้นไปถอดนอตบนเสาไฟฟ้าแรงสูง แต่เกิดพลาดศีรษะไปแตะสายไฟ และมือก็จับกับสลิงที่ต่อไปลงดินจนไฟช็อต ร่างกระเด็นตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากตรวจสอบโครงกระดูกพบว่า กะโหลกศีรษะมีรอยไหม้ ดำ และมือขวาของโครงกระดูกเป็นรอยดำคล้ายถูกไฟฟ้าช็อตเช่นกัน
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรอผลการตรวจชันสูตรยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง แต่หากญาติไม่ติดใจ ก็จะให้ดำเนินการรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น