วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

ซี.พี.ค้าปลีกเท3.5พันล.รับ"อาหารกล่อง"รุ่ง ยึด5หัวเมืองหลักเปิดโรงงานใหม่ป้อนเซเว่น


อานิสงส์หลังน้ำลด ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด สบช่องปีหน้าลงทุนอีก 3,500 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตเบเกอรี่-อาหารกล่องพร้อมทาน-ขนมจีบ/ซาลาเปา เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว คิดใหม่ทำ ใหม่ยกโรงงานไปตั้งในภูมิภาค อุบลฯ-ขอนแก่น-สุราษฎร์ฯ-หาดใหญ่ ไม่ต้องรอผลิตจาก ส่วนกลาง สนองกำลังซื้อท้องถิ่นเต็มที่ ยกตัวอย่าง เมนูใหม่ แกงโฮะราดข้าว ขายใน 7-ELEVEN เฉพาะภาคเหนือ



ความคิดที่จะขยายกำลังการผลิตอาหารประเภทพร้อมรับประทานและ เบเกอรี่เพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น ถูกตอกย้ำความถูกต้องหลังสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายแล้ว พบว่าช่วงที่ผ่านมาอาหารพร้อมทานทำยอดขายอย่างถล่มทลายในช่วงวิกฤต ส่งผลให้เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างและขยายโรงงานผลิตอาหารสำหรับจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่นเพิ่ม

นายวิเศษ วิศิษฎ์วิญญู รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี.ค้าปลีก และการตลาด จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะขยายการลงทุนด้วยการก่อสร้าง โรงงานแปรรูปอาหารใหม่อีก 5 แห่ง และขยายโรงงานเก่าอีก 2 แห่ง รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับยอดขายของสินค้าที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมถึงการตอบสนอง ให้ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละภูมิภาคสำหรับกลุ่มสินค้า 3 ประเภท ได้แก่ เบเกอรี่ มีแผนเพิ่ม ยอดขาย 8,000 ล้านบาท, อาหาร พร้อมทาน (Ready to eat) ประเภทข้าวกล่อง มีแผนเพิ่มยอดขายให้ได้ถึง 750,000 กล่อง และเพิ่มการผลิต อาหารว่างประเภทซาลาเปา-ขนมจีบ จากปัจจุบันซาลาเปาผลิตอยู่ประมาณ 400,000 ลูก/วัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ตัน/วัน

ส่วนผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เฉพาะปี 2555 จะก่อสร้างโรงงานใหม่ 2 แห่ง และขยายโรงงานเก่าเพิ่มอีก 2 แห่ง รวมถึงมีแผนจะขยายเพิ่มในอนาคต อีก 1 แห่ง ได้แก่ 1) โรงงานผลิตเบเกอรี่ใหม่ที่ลาดกระบัง อยู่ใกล้กับโรงงานเก่า มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 1,000 ล้านบาท 2) โรงงานผลิตเบเกอรี่ใหม่ที่ อุบลราชธานี 500 ล้านบาท 3) การขยายโรงงานเก่าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ที่เชียงใหม่ 500 ล้านบาท ส่วนโรงงานที่พิษณุโลกยังไม่มีแผนงานขยายเพิ่ม 4)การขยายกำลังการผลิตโรงงานเก่าที่ จ.ขอนแก่น 500 ล้านบาท

ส่งผลให้กำลังการผลิตเบเกอรี่ของบริษัทในปี 2555 จะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว หากพิจารณาจากยอดขายเบเกอรี่ปัจจุบันของบริษัทประมาณ 3,500 ล้านบาท หลังจากก่อสร้างโรงงานผลิต เบเกอรี่ทั้งหมดแล้วเสร็จจะทำให้ยอดขายเพิ่มเป็น 8,000 ล้านบาท ในอนาคตจะสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่เพิ่มที่ สุราษฎร์ธานี มูลค่า 500 ล้านบาท จากปัจจุบันในภาคใต้มีโรงงานเบเกอรี่ อยู่แห่งเดียวที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา

นอกจากนี้ บริษัท ยังมีแผนขยายการก่อสร้างโรงงานผลิตพวกซาลาเปา/ ขนมจีบ เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งที่ จ.ชลบุรี มูลค่า 700 ล้านบาท โรงงานนี้จะเน้นใช้เครื่องจักรแบบอัตโนมัติ ใช้แรงงานคนน้อย เพื่อให้ผลิตได้ปริมาณมาก ๆ โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 30 ตัน/วัน

ส่วนโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานจะก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มูลค่าการก่อสร้าง 500 ล้านบาท ผลิตอาหารกล่องตรา "เดลี่ไทย" กับ "อีซี่โก" จำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นโดยเฉพาะ คาดว่าหลังโรงงานแห่งนี้แล้วเสร็จจะทำให้ยอดผลิตอาหารกล่องจากปัจจุบันผลิตได้ 250,000 กล่อง ผลิตเพิ่มขึ้นอีก 500,000 กล่อง รวมเป็น 750,000 กล่อง

"การก่อสร้างและขยายโรงงานในส่วนภูมิภาคจะประหยัดในเรื่องค่าขนส่ง อาทิ การสต๊อกสินค้าและกระจายสินค้าสามารถทำได้ในภูมิภาคที่โรงงานตั้งอยู่ เราก็จะไปสร้างฮับขึ้นที่นั้น เรามีบทเรียนอย่างอาหารพร้อมทานบางประเภทขายได้เฉพาะในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดขายไม่ได้เลย ตรงนี้เราก็จะเปลี่ยนเมนูใหม่เป็นเมนูเฉพาะที่คนต่างจังหวัดต้องการ อาทิ สปาเก็ตตี้ไวต์ซอส ขายไม่ได้ ในต่างจังหวัด เราก็เปลี่ยนเป็นผลิตข้าวราดแกงโฮะ ขายเฉพาะเซเว่นฯในภาคเหนือ ซึ่งจะตอบโจทย์ของคนในภูมิภาคมากกว่าที่จะต้องรอจากโรงงานส่วนกลางผลิต" นายวิเศษกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น